“...ผมชาวสุราษฎร์ อยู่ในหลาดพรุพี
พอพวกคอมฯ มี ฉานหนีไปเขาศูนย์...
เขาศูนย์คอมฯ มี ฉานหนีไปพิปูนฯ
แล้วกลับกะทูน เพราะพิปูนฯ คอมฯ ก็มี...
มาอยู่กะทูน ฉานอยู่ไม่ได้
พวกคอมฯ ล้อมนาย ฉันจึงย้ายหนี
หนีมาบ้านส้อง อยู่เหนือคลองสบายดี
ทำไร่หลายปี พอคอมฯ มีหนีเลย...
หนีจากเหนือคลอง มาอยู่ช่องช้าง
ฉานทำงานจ้าง กรีดยางลุงเฉย
พวกคอมฯ เต็มบ้าน ลูกหลานป้าเชย
ไม่อยู่แล้วเหวย ลุงเฉยก็คอมฯ...
หนีจากช่องช้าง ไปทางเหมืองทวด
เดินจนตีนปวด ร่างกายผ่ายผอม
เห็นซากรถถัง ผุพังเพราะคอมฯ
คนอ้วน-คนผอม แถวนี้คอมฯ ทั้งเพ...
หนีมาเหมืองทวด ตีนปวดไม่ทันหาย
พวกคอมฯ ล้อมนาย ฉานต้องย้ายแล้วเด้
ย้ายไปกงตาก คอมฯ มากทั้งเพ
ขาด้วน-ขาเฉ ตาเหล่-ก็มี...
กงตาก กรุงชิง คอมฯ ยังเป็นร้อย
ยิงนายตายบ่อย ฉานเลยถอยหนี
หนีออกห้วยมุด คอมฯ อุด คอมฯ ตี
กลับบ้านพรุพี คอมฯ ตีค่ายโคกแค...
หนีไปพระแสง คอมฯ นอนตะแคงสบาย
หนีออกบางลาย เห็นคอมฯ ชายทอดแห
คอมฯ หญิงถือปืน ยืนยามคอยแล
หนีเข้าลานเข้ คอมฯ ทั้งเพเหมือนกัน...
คลองหนวน ยูงงาม คอมฯ มากเหมือนผึ้ง
กว่าถึงควนเริญ ฉานเดินจนน่องสั่น
คลองตาล บ้านใหญ่ ก็เกือบไปเหมือนกัน
พอดีหนีทัน แถวนั้นไม่ปลอดภัย
หนีออกเคียนซา คิดว่าคอมฯ หาม่าย
แต่ผลสุดท้าย ไปนอนกลางค่ายใหญ่
ฉานคนกลัวคอมฯ ตรมตรอมหัวใจ
ไม่รู้หนี้ไปไหน เลยตัดสินใจเป็นคอมฯ”
.
ประพันธ์โดย “หนังประเคียง ระฆังทอง”
หมายเหตุ
โดยข้อเท็จจริงหนังประเคียง ระฆังทอง เดิมเป็นชาวลุ่มน้ำปากพนัง เช่นเดียวกันกับผม ไม่ใช่"ชาวสุรษฎร์"ดังในเพลง