เพื่อแผ่นดินเกิด

สมมุติฐานเรื่อง #การมาตั้งถิ่นลงหลักปักฐานของชนชาวจีนในเมืองนคร นี้

ผมยกไว้ตรวจสอบ ๓ ระลอก เท่าที่คิดว่าน่าจะพอหาหลักฐานได้

คือชุดแรก #ช่วงอยุธยาถึงต้นรัตนะ ชุดสองก็ราว ๆ #รัชสมัย ร.๔ - ๕

ชุดล่าสุดก็ตอนเกิด #การเปลี่ยนแปลงการปกครองในจีน

เป็นสาธารณรัฐและคอมมิวนิสต์

โดยยกให้ #ตาขุนลกที่นาปละหยาม ฝั่งตะวันตกเป็นหนึ่งในจีนนครรุ่นแรก

ด้วยท่านเข้ามาตั้งนิวาสถานที่แถว ๆ #วัดสบ ตรงปากประตูเมืองนครตอนใต้

ตรงฉนวนเชื่อมต่อของเมืองนครกับ #เมืองพระเวียง

ที่ท่าน อ.ศรีศักรสรุปว่าเป็นเขต #เวียงวังของเมืองนครสมัยสุโขทัย

ที่ทุกวันนี้ควบรวมกับหลายวัดบริเวณนั้น

เหมือนว่ามี #วัดไฟไหม้ #วัดธารวดี ฯลฯ อยู่ในบริเวณ #วัดท้าวโคตร ทุกวันนี้

ตาขุนลกผู้นี้ มีนามปรากฏในหลายหลักฐานและเรื่องราว

กล่าวโดยสรุป ท่านเป็นคนจีนที่มาได้เมียลูกครึ่งไทยจีนที่วัดสบนี้

แล้วประสบความสำเร็จจนได้รับแต่งตั้งเป็น #พระขุนลก ผู้ดูแลนา

ตลอดจนนานาผลประโยชน์ของเจ้าเมืองนครด้านนี้

จนผู้คนยกให้เป็นเสมือนเทพหรือทวดผู้เอื้อต่อการทำมาหากินของผู้คนด้านนี้

และที่เป็นเรื่องมากขึ้น ก็มีการระบุไว้มากว่าท่านคือผู้อุปัฏฐาก

ถวาย #สามเณรปูจากสทิงพระ ที่มาบวชที่วัดท่าแพ และอยู่เรียนที่วัดเสมาเมือง

รวมทั้งส่งท่านไปศึกษาต่อที่ศรีอยุธยาโพ้น

จนเป็น #สมเด็จสามีราม #หลวงพ่อทวดวัดพะโตะ ในทุกวันเวลานี้

เท่าที่อ่านงานของคุณ #ชวลิต_อังวิทยาธร ระบุว่า

รูปตาขุนลกนี้ เดิมอยู่ในความดูแลของทายาทในสายสกุล

มีการเปลี่ยนย้ายหลายหนแห่ง

ก่อนที่นำมาฝากรักษาไว้ที่ #ศาลพระเสื้อเมือง นี้

ส่วน #ศาลพระเสื้อเมือง นี้ก็สนุกไม่น้อย

คติ #พระทรงเมืองเสื้อเมือง นั้น แต่เดิมเป็นคติของทางฝ่ายอินเดีย

ศาลนี้น่าจะสร้างอย่างอินเดียและอยู่ในความดูแลรักษาของแขก ๆ

แต่ก็เกิดการเรื้อร้าง จนภายหลังฝ่ายจีนเข้ามาช่วยดูแลแทน

แล้วทุกวันนี้ก็เลยกลายเป็นจีนอย่างที่เห็นกันทุกวันนี้ สนุกดีครับ

พาพี่ Pariwat Chanthorn มา #ตามรอยจีนนคร ทั้งที ก็ต้องแวะนี้มีครบครับ

มากกว่า #พระเสื้อเมือง #ตาขุนลก แล้วก็ #หลวงพ่อทวด เยอะเลยครับ

เทพอะไร ท่านใดบ้าง หมอนี้เกินจำ

แถมกำลังมีการสร้างทำพัฒนาสารพัดที่ผมนี้ไม่ค่อยถนัดครับ

สนใจแวะไปกันเองนะครับผม

๑๘ ธันวา ๖๕ ๐๗๒๘ น.

บ้านบวรรัตน์ ท่าวัง เมืองนคร