การพระศาสนา

#ศรัทธาของผู้คนที่พระธาตุนคร นั้นคณนา

เฉพาะสองต้นเงินนี้กเกินประมาณ

พระที่ #วัดเสาธงทองปากพนังฝั่งตะวันออก

น่าจะชวนชาวกสิกรที่ทำนาและผู้ค้าข้าวได้ผลมหา สร้างทำถวาย

ตลอดต้นก้านกิ่งถึงใบ สลวยสวยพริ้ว ไหวโบกได้เสมือนจริง

มีดอกสุวรรณประอร่ามเรืองรอง เกสรมีแก้วมณี

ผีเสื้อบินตอม พร้อมผึ้งสร้างรวงรังไม่ร้าง

ดูไม่ออกหรอกว่าดอกต้นอะไร

ใช่ #กัลปพฤกษ์บนสรวง หรือ #สมัยศรีอาริยะ ไหม ?

แต่ใบเหมือนกนกมาลัย นึกถึง #ท่านอังคาร คราวชวนกันไปศรีสัชนาลัย

บอกว่าใบอย่างนี้ อยากเรียกว่า #ต้นศรีสัชนาลัย ให้สมสมัย

ที่พระพุทธศาสนารุ่งเรืองเฟื่องตระการ

ตรงคบพฤกษ์พบธำมรงค์ค์ทอง หัวมณีเขียวคล้ายมรกตไหม ?

แล้วก็ชวนกลับมายัง #เสาธงทองท่าวังกลางเมืองนคร

ที่ทุกวันนี้นึกสังเวชนัก เมื่อทั้งวัดมหาอารามใจกลางนคร

กลายเป็นร้านค้า ตลาด โรงแรม แทบสิ้นสุดร่องและรอยศรัทธามหาชน

เหลือเป็นอารามน้อยนิด ๆ ซุกอยู่ในซอกหลังนานาอาคารพาณิชย์

มีทั้งไทยโฮเต็ล กับอีก ๒ โรงแรมมุมเนรมิต

กับ ๑ ตลาดโบ๊เบ๊แห่งเมืองนี้ ที่ประกาศว่าสุดใหญ่บนด้ามขวานทอง !!!

ตรงมุมสี่แยกท่าวังยังเห็นนามอาคาร ว่า #ศรีธรรมราชมุนี !!!

แต่ทั้งนั้นคือห้องพักแรมเริงรมย์ของคนผ่านทาง

พอจำได้ราง ๆ ว่าแรกดำริสร้างเมื่อร่วม ๕๐ ปีนั้น

จะนำศฤงคารทั้งหลายนี้ #บำรุงการพระศาสนาเมืองนคร

ที่ #วิทยาลัยสงฆ์ภาคทักษิณ

ที่ทุกวันนี้ขยับเป็น มจร. ยังลอยไปมาหาที่ทางไม่รู้ลงตัว

แต่เมื่อทุกอย่างล้วนอนิจจังตามไตรลักษณ์

การเหลืออยู่ของสองต้นเงินแห่งเสาธงทองปากพนังคู่นี้

ก็ยังพอมีหมายให้ปีติ แม้จะเจือสังเวชตามธรรมดา

ท่านใดใฝ่เจริญจิตภาวนาแห่งสังเวชนียธรรมนี้

เชิญไปที่สี่แยกท่าวังเมืองนคร

แล้วถามคนแถวนั้นเถิดว่า #วัดเสาธงทองอยู่ไหน ?

ถามแล้วควรพยายามหาหนทางเข้าไป

ให้เห็นเป็นประจักษ์ด้วยตาตนจนบรรลุธรรม

นี้ #ศรีธรรมราชนคร ... #นครอันงามสง่าและยินดีได้ด้วยธรรม !!!

๑๙ มิย.๖๔ ๐๗๐๗ น.

บ้านบวรรัตน์ ท่าวัง เมืองนคร