logo_new.jpg
พ่อของผมเป็นนักกีฬาเอกระดับตำนาน …
OurLegendaryFatherAtPenangMalay
(bunchar.com บัญชาชีวิต 20221205_5)
พ่อครับ แม่ครับ น้าพาครับ
วันนี้เต้ยกลับมานอนที่ปีนังอีกแล้ว
ต่อจากวันก่อนที่มาตามรอยพ่อที่ปีนัง ทั้ง รร.ปีนังฟรีสกูลกับจงเหล็ง
คราวนี้มาตามรอยดีบุกกับเปอรานากัน กับคณะของ อ. Rungsima Kullapat
มีคุณ Clement Liang นำทาง คุณ Grace Khaw เลี้ยงรับเพิ่งเสร็จสรรพ
นี้ที่พี่ตั้ว Banyong Pongpanich เขียนไว้เมื่อ 5 ธค.2561
ขอเอามาเล่าต่อ และบอกพ่อ Pariwat Chanthorn
เผื่อเอาไปใช้ใน Spirit of Asia: The way Forward ครับ
พ่อของผมชื่อ สุธี พงษ์พานิข เป็นบุตรคหบดีจีนในจังหวัดยะลา เกิด16 สิงหาคม 2461(1918)เมื่อร้อยปีก่อน
พออายุได้ 15 พ่อก็ถูกส่งไปเรียนที่ปีนังตามอย่างธรรมเนียมนิยมของคหบดีภาคใต้ในเวลานั้น ตอนแรกก็เรียนที่โรงเรียนจีนจงเหล็ง แล้วย้ายไปเรียนPenang Free Schoolซึ่งเป็นโรงเรียนแบบPublic Schoolตามอย่างผู้ดีอังกฤษ
ที่ปีนังนี่เอง ที่พ่อได้สร้างสถิติกรีฑาไว้อย่างมากมาย พ่อเป็นแชมเปี้ยนแห่งมาลายา(ในเวลานั้นยังไม่มีประเทศมาเลเซีย) ในการกระโดดสูงหลายปี เป็นคนแรกที่กระโดดได้เกินกว่า 6 ฟิต ดีที่สุดตอนแข่งทำได้ 6feet 3.5inches เท่ากับ 1.92 เมตร ซึ่งพ่อเล่าว่าเคยซ้อมได้ถึง 2.02 เมตร ที่ในเวลานั้นถือเป็นสถิติระดับโลกเลยทีเดียว …เหรียญทองโอลิมปิคปี 1936 ที่เบอร์ลินกระโดดได้สูงแค่2.03 เมตรเอง ซึ่งถ้าพ่อได้ไปก็มีสิทธิ์เป็นคนไทยคนแรกที่ได้ทองโอลิมปิคเลยไม่ต้องรอสมรักษ์ที่มาได้เอาอีกหกสิบปีให้หลังที่แอตแลนตาในปี1996 (น่าเสียดายที่คนไทยคนแรกที่ได้ไปแข่งก็ปาเข้าไป1952 ที่เฮลซิงกิ) …สถิติของพ่อทำลายสถิติมาลายาของเก่าอย่างราบคาบ จนทำให้ได้รับตำแหน่งนักกีฬายอดเยี่ยมประจำปีของประเทศไปเลย และเป็นสถิติที่ยืนยงอยู่ถึง 35 ปีกว่าจะมีคนทำลายลงได้
ตอนแข่งที่มาลายา พ่อใช้ชื่อจีนว่า เซียวเหล่งหยู่ (Siow Leong Joo)และที่น่าทึ่งก็คือ พ่อมีส่วนสูงแค่ 1.77 เมตรเท่านั้น นับว่ากระโดดได้สูงกว่าความสูงตัวเองถึง 15 ซม. ซึ่งนับว่ามากที่สุดในโลก ในยุคที่การกระโดดสูงสมัยนั้นต้องจบด้วยการเอาขาลง เพราะต้องกระโดดลงบ่อทรายตื้นๆไม่มีเบาะฟองนำ้รองรับ ถ้าเอาหลังเอาคอลงเหมือนท่าโดดสมัยนี้ คงโดดได้ทีเดียวแล้วส่งโรงหมอเลย ซึ่งท่ากระโดดที่พ่อใช้นั้น เรียกว่า Eastern Cut-off ที่ไม่มีใครใช้อีกแล้วในสมัยนี้ และนักวิจารณ์บอกว่าพ่อมีเทคนิคพิเศษที่บิดตัวกลางอากาศกดให้ศูนย์ถ่วงตำ่ลงจนเพิ่มความสูงได้อย่างน่าอัศจรรย์
นอกจากกระโดดสูงแล้ว พ่อยังเล่นได้ดีระดับแชมป์ประเทศในการกระโดดคำ้(Pole Vault)ที่มีสถิติ 11ฟิต 5 นิ้ว(3.48เมตร)โดยใช้ไม้ไผ่กระโดด(ทำลายสถิติประเทศทั้งโดดสูง โดดคำ้ ในวันเดียวกัน ตอนเป็นเด็กนักเรียน แถมทำลายได้แบบเยอะแยะ เป็นคนแรกที่กระโดดสูงได้เกินหกฟิต กระโดดคำ้ถ่อได้เกิน 11 ฟิตในแหลมมลายู) …กระโดดไกลได้ 21ฟุต 5 นิ้ว (6.53เมตร) …วิ่งข้ามรั้ว 110เมตร 17.5 วินาที …เขย่งก้าวกระโดดได้ 13.3เมตร …กับเคยเป็นแชมป์นักเรียนวิ่ง100หลา ได้ 11 วินาที …ที่บ้านเรามีถ้วยกีฬาเงินใบโตๆของพ่ออยู่กว่าสิบใบ ซึ่งนัยว่าจะต้องส่งคืนเมื่อครบปี แต่พอดีเกิดสงครามโลกครูของพ่อเลยเก็บไว้และรวบรวมส่งมาให้หลังสงคราม
น่าเสียดายที่พ่อไม่เคยลงแข่งในไทย หรือในนามทีมชาติไทยเลย เพราะจากปีนังก็ไปเรียนต่อญี่ปุ่น ซึ่งก็สร้างชื่อที่ญี่ปุ่นอีกมากมาย(น่าเสียดายที่ผมค้นหาหลักฐานไม่เจอ) จบมาก็ช่วงสงคราม ....พอสงครามสงบ พ่อก็ได้รับเขิญให้ร่วมทีมไทยไปเอเชี่ยนเกมส์ครั้งแรกที่อินเดีย ซึ่งเดิมกำหนดแข่งปี 1950 แต่แล้วอินเดียก็ขอเลื่อนไปปีหนึ่ง จนพ่อแต่งงานและแม่ท้อง พ่อก็เลยสละสิทธิ์ เพราะอายุก็มากแล้ว(33ปี)
นี่แหละครับ ประวัติด้านกีฬาของพ่อผม …ตอนที่ผมเข้าจุฬาแล้วติดทีมมหาวิทยาลัยถึง 4 กีฬา คือ รักบี้(อันนี้ทีมชาติด้วย) บาสเกตบอล วอลเลย์บอล และทศกรีฑา พ่อเคยมาดูผมแข่งหลายครั้ง แล้วก็จะบ่นว่า ผมไม่ค่อยเอาจริง ไม่ทุ่มเทฝึกซ้อม เล่นได้ไม่ดีพอ พ่อจะพูดเสมอว่าผมเป็นพวก “Jack of all trades, King of none.”
ต้องขอบคุณการเก็บข้อมูลของสิงคโปร์ ที่ถึงแม้เวลาผ่านมาแปดสิบปี ผมยังหาข้อมูลเกี่ยวกับการกีฬาของพ่อได้เยอะแยะมาก นี่ถ้าพ่อเล่นแต่ในเมืองไทย ผมคงรู้เท่าที่พ่อเล่าแล้วจำได้เท่านั้น
วันพ่อ …คิดถึงพ่อมากๆครับ
๕ ธันวา ๖๕ ๒๓๒๘ น.
Muntri Mews GTHH Penang
 
 
 
 
 
Joomla templates by a4joomla
rtp slot https://www.sidiap.org/rtp-live-slot//