logo_new.jpg

#พระแสงดาบราวเทียน #สมเด็จกรมพระยาดำรง ทรงว่าไง ?
WhatPrinceDumrongSaid ?
(bunchar.com เพื่อแผ่นดินเกิด 20231229_7)

ในเรื่อง "#วังหน้า" สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเล่าไว้ว่า ...

" ... ครั้นถึงเดือน ๘ ปีกุน พ.ศ.๒๓๔๖ ... เมื่อ #กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ทรงสังเกตเห็นอาการที่ทรงประชวร มีแต่ทรงอยู่กับทรุดลงเป็นลำดับมา จนพระสิริรูปซูบผอมทุพพลภาพ ทรงรำคาญด้วยทุกขเวทนาที่มีในอาการพระโรค วันหนึ่งจึงทรงอธิษฐานเสี่ยงทายพระสุธารสว่าถ้าหากพระโรคที่ประชวรจะหายไซร้ ขอให้เสวยพระสุธารสนั้นให้ได้โดยสะดวก พอเสวยพระสุธารสเข้าไป ก็มีพระอาการทรงพระอาเจียน พระสุธารสไหลกลับออกมาหมด แต่นั้นกรมพระราชวังบวรฯ ก็ปลงพระราชหฤทัยว่าคงจะสวรรคต มิได้เอาพระทัยใส่ที่จะเสวยพระโอสถรักษาพระองค์ และทรงสั่งเสียพระราชโอรสธิดาข้าราชการในวังหน้าตามพระอัธยาศัย ให้เข้าใจทั่วกันว่าพระองค์คงจะเสด็จสวรรคตในไม่ช้าแล้ว
อยู่มาวันหนึ่ง ทรงระลึกถึง #วัดพระศรีสรรเพชญ (วัดมหาธาตุฯ ในทุกวันนี้) ซึ่งไฟไหม้เมื่อปีระกา พ.ศ.๒๓๔๔ แล้วทรงสถาปนาใหม่ การยังค้างอยู่ จึงดำรัสสั่งให้เชิญพระองค์ขึ้นทรงพระเสลี่ยง เสด็จออกมายังวัดพระศรีสรรเพชญ ว่าจะทรงนมัสการลาพระพุทธรูป ครั้นเสด็จถึงหน้าพระประธานในพระอุโบสถ #ดำรัสเรียกพระแสงว่าจะจบพระหัตถ์อุทิศถวายเป็นพุทธบูชาเพื่อให้ทำราวเทียน ครั้นพนักงานถวายพระแสงเข้าไป ทรงเรียกเทียนมาจุดเรียบเรียงติดเข้าที่พระแสงทำเป็นพุทธบูชาอยู่ครู่หนึ่ง ขณะนั้นพระอาการพระโรคเกิดทุกขเวทนาเสียดแทงขึ้นเป็นสาหัส ก็ #ทรงหุนหันจะเอาพระแสงแทงพระองค์ถวายพระชนม์ชีพเป็นพุทธบูชา #พระองค์เจ้าชายลำดวน ลูกเธอองค์ใหญ่ที่ตามเสด็จไปด้วยเข้าแย่งพระแสงไปเสียจากพระหัตถ์ กรมพระราชวังบวรฯ ทรงโทมนัส ทอดพระองค์ลงทรงพระกันแสงแช่งด่าพระองค์เจ้าลำดวนต่าง ๆ ในที่สุดเจ้านายและข้าราชการที่ไปตามเสด็จต้องช่วยกันปล้ำปลุกเชิญพระองค์ขึ้นทรงพระเสลี่ยงกลับคืนเข้าพระราชวังบวรฯ ... "

" ... มาจนถึงวันพฤหัสบดี เดือน ๑๒ แรม ๔ ค่ำ (ตรงกับวันที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๓๔๖) เวลาเที่ยงคืน กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทเสด็จสวรรคตในพระที่นั่งบูรพาภิมุข คำนวณพระชนมายุได้ ๖๐ พรรษา ... "

ข้อความนี้คัดจากหนังสือ สมเด็จพระบวรราชเจ้า มหาสุรสิงหนาท กรมพระราชวังบวรสถานมงคล
จัดพิมพ์โดยมูลนิธิมหาสุรสิงหนาท เมื่อ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๐
มอบพร้อมรูปพระบวรราชานุสาวรีย์ ที่สร้างไว้เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๑ เมื่อ ๔๕ ปีก่อน

มีทั้งที่สอดคล้องแต่มากกว่าสรุปความของ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์ ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร
และของ อ. Num Champapan ซึ่งมีที่แตกต่าง เกี่ยวกับลูกเธอที่แย่งพระแสงดาบ
และไม่ได้โยงว่าเป็น #พระแสงที่สมเด็จพระเจ้าตากสินพระราชทาน แต่อย่างใด

แต่ที่แท่นประดิษฐานพระบวรราชานุสาวรีย์น้อยในพระวิหาร
มีข้อความเขียนไว้ว่า ...

" ... ทรงยกพระแสงดาบคู๋พระทัยขึ้นจบ ตั้งสัตยาธิษฐานถวายเป็นพุทธบูชาต่างเครื่องราชสักการะ (ถวายพระแสงดาบนั้นให้เป็นราวเทียนไว้ในพระอุโบสถวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎ์) เยี่ยงพระเจ้าอโศกมหาราช พระมหากษัตริย์ผู้ครองชมพูทวีปภายหลังทรงออกศึกประหารอริราชศัตรูมากหลาย ครั้นบ้านเมืองคืนสู่ความสงบตามพระราชประสงค์แล้ว ก็ทรงวางอาวุธถวายพระชนม์ชีวิตไว้ในพระพุทธศาสนา
ทรงตั้งพระทัยมั่นอัญเชิญอานุภาพของพระรัตนตรัยมาเป็นเดชะป้องกันบ้านเมืองให้รอดพ้นจากภัยพิบัติอุปัทวันตราย และขอให้พระศาสนาไพศาลถาวรอยู่คู่ประเทศชาติเป็นนิรันดรกาล
ทรงประกาศต่อเทพยดาฟ้าดิน ต่อพระวิญญาณของอดีตกษัตริย์ทุกพระองค์ ต่อทวยทหารทุกเหล่าทัพและปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า จงเสด็จมาและมาช่วย และร่วมมือกันปกปักรักษาแผ่นดินไว้ให้มีความสงบสุข อย่าได้ถูกทำลาย ตกเป็นเมืองทาสของชาติใดและผู้ใดไปตลอดกาล ... "

ว่าแล้ว ผมก็เลยเชิญ #พระบวรราชานุสาวรีย์น้อยองค์หนึ่ง นี้กลับเมืองนคร
ด้วยสมเด็จฯ ท่านได้ #เจ้าจอมมารดานุ้ย ธิดาของ #เจ้าพระยานครพัฒน์
มีพระราชธิดาพระองค์หนึ่ง คือ #พระองค์เจ้าหญิงปัทมราช
ซึ่งในวัยปลาย ได้คืนเมืองนคร และดูเหมือนว่า ร.๔ ก็ยังมีจดหมายถึง
พร้อมกับทรงเสด็จลงไปเยี่ยมถึงเมืองนครด้วย ถ้าผมจำไม่ผิด

๒๙ ธันวา ๖๖ ๒๑๓๐ น.
บ้านท่าวัง สะพานควาย กทม.

 

 

 

 

 

 

Joomla templates by a4joomla
rtp slot https://www.sidiap.org/rtp-live-slot//