เพื่อแผ่นดินเกิด

      " ... เจดีย์วัดแก้ว ศรีธรรมาโศกสร้างแล้วแลเห็นเรืองรอง สี่พระบาทแก้ว เหยียบปากพะเนียงทองผู้ใดคิดต้อง กืนไม่สิ้นเลย ... "

ปริศนาคำทายประจำวัดแก้วแห่งไชยาองค์นี้ไม่เพียงไขปริศนาไม่ออกว่ามหาสมบัติในพะเนียงทองที่เห็นเรืองรองมีสี่พระบาทแก้วประทับอยู่กินได้ไม่สิ้นสร้างไว้โดยศรีธรรมาโศกนี้ คืออะไรและอย่างไร ตรงไหน องค์ไหน ฯลฯ ? การเวียนไปอีกครั้งของผมเมื่อเช้าวานซืนนี้หลังผ่านปากด่านไปสุดที่ปลายคลองชลประทานริมนาไชยาแล้วลองเดินประทักษิณรอบพร้อมเก็บภาพจากด้านตะวันออกอ้อมใต้ที่เห็นเป็นองค์โตใหญ่ มีช่องครรภ์คฤหะและมุมที่ยังเหลืออยู่มากสุดกับเสาประดับกรอบประตูด้านใต้ ที่มีรายละเอียดมากสุดรวมทั้งทางตะวันตกเฉียงใต้ ที่เคยมีคนบอกว่าเป็นรอยครุฑเหินอย่างจามปาโดยพระอุโบสถ หอระฆัง ศาลาการเปรียญ และกุฏิใหม่ทั้งหลายท่านสร้างรายรอบอยู๋ห่างออกไปกำลังงามมีป้ายกรมศิลปากรบอกรายละเอียด พาดพึงทั้งจามปาและชวาระบุบอกว่า พบรูปพระทั้งพุทธและพราหมณ์หลายยุคหลายสมัย หลายนิกายนับถือ รวมทั้งศิวลึงค์องค์หนึ่งด้วย ส่วนใหญ่กล่าวว่า คือหนึ่งในปราสาทสามหลังตามจารึกหลักสำคัญว่าผู้เป็นใหญ่แห่งศรีวิชัยให้สร้างไว้พระโพธิสัตว์เมื่อ พ.ศ.๑๓๑๕ (สอบทานที่ถูกอีกครั้ง) โน้นแต่ปัญหาดันบันทึกไว้ว่า จารึกหลักนั้น พบที่วัดเสมาเมือง เมืองนครนำมาสู่ข้อถกแถลงกันยาวยืดยากที่จะจบได้ยิ่งไปเจออีกจารึก บอกปี พ.ศ.๑๗๓๕ (สอบทานที่ถูกอีกครั้ง)ที่ระบุว่าเอาไปจากวัดเวียงของศรีธรรมาโศกราชแห่งตามพรลิงค์สถาปนาไว้ !!! โดยผมนั้น ขอไม่เถียงอะไรกับใครเพราะศรีวิชัยกับตามพรลิงค์นั้น ร่วมถิ่นสถานและยุคสมัยกันตามพรลิงค์ นครศรีธรรมราช และไชยานั้น เราก็ด้วยกันมาแต่ไหนเพิ่งจะมาแยกเป็นนั่นเป็นนี่ เมื่อไม่นานนี้ ไม่กี่ร้อยปีเองครับ

      ส่วนว่านี้ ศรีวิชัย จามปา หรือว่าชวา ? ผมปัญญาไม่ถึงครับแต่กจะพยายามชวนคนมาช่วยหาคำตอบให้ในไม่ช้านนานเกินไปครับ

๓๐ มค.๖๓ ๐๖๐๐ น.
บ้านบวรรัตน์ ท่าวัง เมืองนคร