การพระศาสนา

หลังเลือกลั่นทมไปปลูกที่สวนโมกข์แล้ว เนื่องจากรังลั่นทมอยู่ที่แก่งคอย ต่อเนื่องกับวังม่วง เห็นป้าย "แหล่งโบราณคดีโป่งตะขบ" กับ "เขื่อนป่าสัก"
ผมก็เลยขอแวะทั้ง ๒ แห่ง จากนั้นจึงบึ่งตรงกลับสวนโมกข์กรุงเทพเพื่อร่วมฟังธรรม พระอาจารย์อมโร แห่งวัดอมราวดี ที่นครลอนดอน

คืนนี้ ท่านแสดงธรรมแบบสบาย ๆ และสนุกสนาน
ยิ่งท่านเป็นนักจิตวิทยาและสรีรวิทยาทางจิตด้วยแล้ว จึงสนุกใหญ่
เท่าที่ผมจับความและคิดว่าน่าจะเล่า เผื่อท่านทั้งหลายจะได้ประโยชน์

ท่านบอกว่า เรื่อง Free Will หรือ เสรีทีปรารถนา กันนักในหมู่มนุษย์นั้น
ทางตะวันตกทุ่มเทกันมากในระยะ ๔ - ๕๐๐ ปีมานี้
ในลักษณะว่า "มนุษย์เรานี้มีเสรีแค่ไหน ไร้ขอบเขต ? หรือว่าถูกกำหนด ?"
เมื่อท่านเรียน ที่ ม.ลอนดอน ก็นิยมชมชอบ "เจ้าเสรี" นี้มาก
เช่นชอบสาทกสนทนากันในเรื่องนี้ ยิ่งกลั้วแอลกอฮอล์ละก็ชอบนัก
มักจะวนเวียนอยู่กับ "เสรี" ของ "กู กู และ ของกู-I-Me-Mine"

อันที่จริงแล้ว ไม่ได้เสรีจริงแท้ถึงที่สุด 
เพราะล้วน "depend on" นี่-นั่น-โน่น ทั้งนั้น

ท่านว่า หัวใจเรื่องนี้ อยู่ที่ สติ กับ ปัญญา ว่า รู้ และ ทัน มันไหม

เมื่อมาบวชที่หนองป่าพงกันท่านอาจารย์ชา
จึงพบว่า "เสรีที่แท้ในพระพุทธศาสนา" เป็นอย่างนี้

ผมฟังจนจบแล้วชวน พ่ออุ๋ย บุดด้าเบลส ที่มานั่งฟังแถวหน้าเข้าไปกราบ
ส่วนลูกชายพี่สุธรรม แสงประทุม ที่มาอาสาดูแลพระอาจารย์อยู่นั้น
เขาเข้าไปทำทุกอย่างตั้งแต่ผมยังมาไม่ถึง

จับใจมาใช้ ๓ ประการ เรื่อง Free Will รอบนี้
หนึ่ง ระวังเรื่อง "กู-กู-ของกู" ไว้ให้ดี
สอง ระวังเรื่อง "นี่-นั่น-โน่น" ไว้ให้มาก
สาม เจริญ "สติ กับ ปัญญา" ไว้เสมอ ๆ
ว่าทุกสิ่งนั้น "สักแต่ว่า" อย่าไปข้อง
เป็น "ของข้า" กะ "นี่ นั่น โน่น" จน "เสรี" เสีย

ก่อนกลับ ท่านยืนดูภาพ Super Hero แล้วบอกว่ามากันครบเลยนะ
ผมตอบเพียงว่า ขอรับ รอบหน้า ชาวพุทธไทยเราต้องสร้างมาสู้เสียแล้ว
เพราะน้องที่วาด เขาบอกว่า ของไทยเดิมถูกกำราบแทบทั้งนั้น

๒๑ มิย.๕๙