บัญชาชีวิต

(๒) แผ่นพื้นปูนลายจากฝรั่งเศส ตั้งแต่แรกสร้างโน้น
(๓) แผ่นแก้วสีประดับตามบานหน้าต่าง เมื่อครั้งนั้นเช่นกัน
(๔) ฝ้าหลังคาที่ทำด้วยไม้เป็นรูปท้องเรือ ระลึกการมาถึงทางเรือกันของคริตชนคณะนี้

      โดยเล่าว่า อันที่จริงแล้วการมาอยู่กันที่จันทบุรีของพวกเขาเริ่มจากการวิวาทของ ๒ สกุลใหญ่แห่งเวียดนาม คือตริ่นห์ กับ เหงียนแล้วมีการชวนคริสตศาสนิกเข้าร่วมโดยพี่น้องคริสต์ขอเป็นกลาง จนจบวิวาท จึงถูกกวาดล้างคณะคริสตชนคาทอลิกเหล่านี้จึงลงเรืออพยพกันมาถึงจันทบูร ว่ากันว่าราว ๆ ๑๓๐ ชีวิตเมื่อสมัยพระเพทราชา พระเจ้าท้ายสระ ปลายอยุธยามีการสร้างอาสนวิหารมาแล้ว ๕ หลัง ตั้งแต่ปี ๒๒๕๕ ด้วยไม้กระดาน ไผ่และใบตาลมีสัตบุรุษเพิ่มขึ้นตามลำดับ เกินกว่า ๑๐๐๐ คน จนปี ๒๔๔๘ หลังฝรั่งเศสคืนจันทบูรให้ไทยสมัย ร.๕ จึงสร้างหลังนี้ มีความจุเก้าอี้ ๒๐๐ ตัว ๆ หนึ่งนั่งได้ ๕ คน ก็ ๑,๐๐๐ ที่ขณะที่มีสัตบุรุษเพิ่มเป็น ๒,๔๐๐ คนเสร็จฉลองในปี ๒๔๕๒ กระทั่งปี ๒๔๘๓ ที่ไทยพิพาทกับฝรั่งเศสขาดต้องเอายอดโดมทั้งหอ ๒ ออกก่อนที่จะเสริมใหม่ในคราว ๑๐๐ ปี ๒๕๕๒ นี้ขณะที่มีสัตบุรุษรวมกัน ๘,๓๗๖ คนมีพิธีมิสซาบูชาขอบคุณพระเจ้าทุกวันจันทร์ - เสาร์ ๐๖๐๐ และ ๑๙๐๐ น.วันอาทิตย์ ๓ เวลา ๐๖๑๕ /๐๘๓๐ และ ๑๙๐๐ น. จากนั้นพวกเราก็ลาจากมาแวะเนินนางพระยานิดหนึ่งแล้วก็บึ่งกลับพระนครกันเป็นที่เรียบร้อยครับ

๑๖ มค.๖๓ ๑๖๓๐ น.
บ้านท่าวัง สะพานควาย กทม.