บัญชาชีวิต

อาจารย์หมอประเวศถามว่า แล้วแม่ได้ฟังจบไหม ? ผมตอบได้แต่ว่า พระท่านเจริญมนต์หลังแม่ถวายผ้าอาบน้ำตอน ๐๐.๑๐ น. จนถึง ชีพจรแม่เป็น ๐ ยาวเมื่อ ๐๐.๓๐ น. ตรงพอดีกับที่พระจบ
ก่อนที่จะสิ้นประจุไฟฟ้าหัวใจตอน ๐๑.๒๙ น.

ผมทำสรุปรายงานคร่าว ๆ ประมาณนี้
ท่านฟูกิจ กรุณาทำรายการโดยสังเขปเพื่อลงในหนังสือแจกตามนี้ ท่านที่สนใจรายละเอียด เชิญอ่านกันเองนะครับ.

อีกอย่างหนึ่ง บ่ายวันนั้น ผมบอกน้าพาว่าเราขึ้นไปเชียร์แม่กันที่กรุงเทพดีกว่า พอไปถึง น้าพาได้เข้าไปเยี่ยมและทักทายแม่ ก่อนทีจะเริ่มฟอกไตแล้วไม่ไหว ได้นายโรจน์กับโจ้ ช่วยเป็นลูกศิษย์ประสานอาราธนานิมนต์และดูแลพระมา ขอบพระคุณและขอบคุณมาก ๆ ครับ.

๑๑ กย.๕๙

"กระทั่งกลางเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา แม่รู้สึกอึดอัดหายใจไม่สบาย จึงได้ให้พาไปหาหมอและเข้าพักรักษาตัวด้วยมีภาวะติดเชื้อในปอดก่อนที่จะพัฒนาเป็นภาวะช็อคจากการติดเชื้อในกระแสเลือดจนมีความล้มเหลวของอวัยวะต่าง ๆ ทั้งหัวใจ การหายใจ โดยครั้งนี้มีผลถึงไตด้วย จึงทำให้การฟื้นคืนของแม่เป็นไปได้ยากกว่าทุก ๆ คราว แต่ก็ค่อย ๆ ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจนรู้ตัวดี หายใจได้เอง พร้อมกับชูสองนิ้วเป็นสัญญลักษณ์ว่าสู้ได้เพื่อลูก ๆ แม้บางครั้งจะส่ายหน้าเพื่อบอกอะไรบางอย่างให้เรารับรู้ กระทั่งเย็นวันที่ ๖ กันยายน ๒๕๕๙ แม้ใจแม่จะยังสมบูรณ์พร้อม แต่เกิดภาวะติดเชื้อจนช็อคซ้ำและเกินกว่าจะกู้ได้แม้แพทย์พยาบาลจะได้พยายามอย่างที่สุด โดยในระหว่างเวลา ๐๐.๑๐ น. – ๐๐.๔๕ น. ของวันที่ ๘ พระภิกษุ ๓ รูปจากวัดสุทธิวราราม วัดโบสถ์ และ วัดสุนันทวนาราม ได้เมตตารับอาราธนานิมนต์มาเยี่ยมแม่ ให้แม่ถวายผ้าอาบน้ำพระ แล้วเจริญพระพุทธมนต์พระปริตที่ประกอบด้วยบทอัญเชิญเทวดา มหานมัสการ ไตรสรณคมน์ นมะการสิทธิคาถา นโมการะอัฏฐกะ มงคลสูตร เมตตปริตร อภยปริตร โอสถปริตร โพชฌังคปริตร สัพพมังคลคาถา เทวตาอุยโยชนาคาถา อุททิสสนาธิฏฐานคาถา และ แผ่เมตตา ซึ่งปรากฏว่า ณ ขณะที่พระภิกษุเริ่มสาธยายโพชฌังคปริตร ชีพจรของแม่ก็หยุดสนิท ณ เบื้องหน้าคณะสงฆ์ ท่ามกลางพวกเราทุกคนที่รายล้อมอยู่พร้อมหน้าแม่ และเมื่อถึงเวลาแห่งการบำเพ็ญกุศลตลอด ๙ วัน ระหว่างวันที่ ๘ – ๑๖ กันยายน ณ วัดธาตุทอง พระวิหารหลวง กระทั่งฌาปนกิจในวันอาทิตย์ที่ ๑๗ กันยายน ก็ได้รับเมตตาจากพระภิกษุมหาเถราจารย์จากหลากหลายสำนักทั่วประเทศมาเป็นองค์ปรารภธรรมให้ญาติมิตรที่มาร่วมการกุศลเพื่อแม่"