บัญชาชีวิต
- Details
- Written by Super User
- Category: คุยกับหมอบัญชา
- Published: 31 March 2016
- Hits: 1994
เนมิราชชาดกว่าด้วยการบำเพ็ญอธิษฐานบารมี ประพฤติธรรมถึงที่สุดและผลแห่งการนั้น บนผนังตะวันตกของวิหารจตุรมุขวัดพรหมินทร์ ที่ไม่น่าจะใช่ภาพกระซิบรักบันลือโลกเสียแล้ว ตามชาดกพระชาติที่ ๔ นี้ เรื่องย่อคือพระเนมิราชหลังขึ้นครองราชสมบัติกรุงมิถิลาสืบต่อจากพระบิดาที่ทรงออกผนวชนั้น ทรงอยู่ในศีลในธรรมพร้อมกับข้าราชบริพารและพสกนิกร กระทั่งเหล่าเทวดาที่ส่วนหนึ่งคือผู้ที่เคยรับการอบรมสอนสั่งของพระองค์ในโลกมนุษย์ได้กราบทูลขอให้พระอินทร์ส่งเวชยันต์ราชรถลงไปรับพระองค์มาเที่ยวสวรรค์ ระหว่างทางพระองค์ขอเวียนดูทุคติภูมิภพของผู้ประกอบบาปกรรมต่าง ๆ จากนั้นจึงขึ้นมาโปรดเหล่าทวยเทพบนสวรรค์ที่เทวดาทั้งหลายทูลเชิญเข้าประทับในวิมานแต่พระองค์ทรงแจ้งว่ามีแต่ต้องประพฤติปฏิบัติและรับผลของตนเองเท่านั้น จะพลอยวิมานของคนอื่นมิได้ แล้วทรงเสด็จกลับเมืองมิถิลาเพื่อบำเพ็ญเพียรตลอดพระชนม์ชีพจนบรรลุธรรมขั้นสูง ๆ ขึ้นไปสู่ชั้นพรหมและอื่น ๆ ภาพผนังด้านนี้ ผืนกลางแบ่งเป็น ๔ ชั้น และดูเหมือนว่าใคร ๆ ก็ดูแต่ภาพชั้นล่างสุดด้านซ้ายมือของบานประตู คือรูปที่เอาไปพูดกันทั่วไปว่าคือปู่ม่านย่าม่านกำลังกระซิบรัก เท่าที่ฟังอาจารย์สิทธิศักดิ์และอ่านชาดกโดยย่อและกลับมาดูภาพเอาเองอีกครั้ง โดยไม่ได้อ่านคำอธิบายอักษรล้านนาเพราะอ่านไม่ออก รวมทั้งบางที่อาจารย์สิทธิศักดิ์ก็บอกว่าเขียนคำอธิบายผิด เช่นรูปพระมาตุลีที่เชิญรถเวชยันต์ก็เขียนว่าพระวิษณุกรรมเป็นต้น ภาพนี้เริ่มที่แผงใหญ่ด้านซ้ายมือตอนล่าง บริเวณรอบหน้าต่าง เห็นปราสาทราชวังแห่งเมืองมิถิลาอันเป็นที่พระทับของพระเนมิราช แวดล้อมด้วยข้าราชบริพารและไพร่ฟ้าประชาราษฎร์ ด้านบนซ้ายเป็นชนชาวกะเหรี่ยงหรือยาง ๒ คน นุ่งเสื้อทอลายทางตัวยาวเหน็บมีดโพกหัวอยู่ใต้ต้นมะพร้าว ขณะที่ด้านขวาล่างสุดเป็นภาพคนเลี้ยงช้างกำลังแบกงาคู่หนึ่ง เหนือขึ้นไปเป็นภาพชาว "ถิ่น" ชนพื้นเมืองในกลุ่มข่า ขมุ และ ที่เราเรียกว่า ผีตองเหลือง มีลายสัก สะพายย่ามและตะกร้าใหญ่เดินอยู่ ๓ คน โดยมีปู่ม่านย่าม่านที่ว่ากำลังกระซิบรักยืนใหญ่อยู่ด้สนหลังพอดีริมประตู เหนือขึ้นไปเป็นภาพพระมาตุลีนำรถมารับพระเนมิราชเสด็จข้ามขอบเมฆ มีลิงคู่กำลังทำสัปดนกันอยู่บนก้อนเมฆ ตามสำนวนชาดกย่อที่ผมอ่าน บอกว่าพระมาตุลีทูลถามพระเนมิราชว่ามี ๒ ทางคือนรกกับสวรรค์ จะทรงเสด็จไหนก่อน เมื่อขอดูนรกก่อนภาพจึงย้ายมาฝั่งขวาของบานประตูเห็นนายนิรบาลนุ่งผ้าใส่หมวกอย่างฝรั่งนั่งตรวจบัญชีบุญกรรม แล้วพญามัจจุราชที่หัวบันไดจึงพิพากษาให้ขึ้นสวรรค์หรือว่าลงนรก ถ้าทำดีไว้มากพอก็ขึ้นบันไดไปอย่างสง่างาม แต่ถ้าก่อกรรมไว้ก็เป็นภาพอบายภูมิทั้งหลายต่อเนื่องไปอีกตั้ง ๒ แผง แบบว่าสัตว์นรกเปรตอสุรกายนั้นแสนมากมายเกินสาธยายโปรดดูภาพเอาเองก็แล้วกัน ตามท้องเรื่องเมื่อทรงผ่านนรกจึงขึ้นถึงสวรรค์ มีวิมาน ต้นกัลปพฤกษ์และเจดีย์จุฬามณี เมื่อโปรดเหล่าเทวดาที่มาต้อนรับและทูลเชิญสถิตในวิมานของแต่ละตน พระเนมิราชทรงตอบว่าไม่ได้ ผลกรรมนั้นเป็นของคนทำ หากหมายสวรรค์ก็ต้องกลับลงไปทำเอาเอง แล้วพระองค์จึงทรงเสด็จกลับไปบำเพ็ญเพียรตามอธิษฐานมารมีจนบรรลุธรรมในที่สุด ส่วนภาพชุดนี้ทีอีก ๒ ชั้นซ้อนสูงขึ้นไปอีก ชั้นกลางเป็นภาพปางพระพุทธองค์ปรินิพพาน มีเหล่าสาวกแสดงอาการเศร้าโศกอยู่เบื้องพระบาท ชั้นบนสุดน่าจะเป็นภาพเมืองกุสินาราของเหล่ามัลลกษัตริย์ บุรุษเสื้อแดงสวมหมวกฝรั่งสีดำนั่งอยู่ท้ายสุดนั้น บอกว่ามีอักษรระบุไว้ว่าคือ หมอชีวกโกมารภัจจ์ กับคชสีห์อีกตนหนึ่งนั่งอยู่ด้านหลัง สรุปภาพด้านเดียวนี้มีปริศนาข้อธรรมแฝงอยู่มากมาย เสียดายที่คนสนใจแต่ภาพบุรุษกำลังคุยอยู่กับสตรีที่ลือกันว่าคือการกระซิบรัก ซึ่งผมไม่เห็นเป็นอย่างนั้น ลองดูตำแหน่งจัดวางและเรื่องราวของทั้งผืนผนัง จะเป็นรูปกระซิบรักได้อย่างไรกัน ? ใครคิดเห็นอย่างไรก็ขอเชิญแสดงความเห็น ผมเองขออุปของตัวเองเอาไว้ก่อนครับ