บัญชาชีวิต
- Details
- Written by Super User
- Category: คุยกับหมอบัญชา
- Published: 01 April 2016
- Hits: 1330
เศษสังเคราะห์จากคลองหนูและอ่าวใหญ่
แสดงความสัมพันธ์จากทะเลจีนใต้ผ่านมหาสมุทรอินเดีย
ถึงชมพูทวีปและทะเลเมดิเตอเรเนียนเมื่อสองพันปีก่อนโน้น
จากรูปเมื่อวานที่รายงานการไปอ่าวใหญ่และคลองหนู
เท่าที่ได้ดูเศษ ๆ ที่หลงเหลืออยู่ในพื้นที่
ผมได้ข้อมูลความรู้ หลังดู วิเคราะห์ และ สังเคราะห์เอาเอง
อย่างนี้
รูปที่ ๑ และ ๗) เป็นเศษภาชนะดินเผาที่พบบนผิวดิน เนื้อละเอียดมาก อย่างที่เรียกว่า "Indian Pottery" แม้ไม่มีลายลูกกลิ้ง รูเล็ตต์ หรือ ดอกบัว อย่างที่พบมากที่ภูเขาทอง แต่ ดร.บริจิตต์ก็พบชิ้นหนึ่ง จึงเป็นหลักฐานความสัมพันธ์กับทางอินเดียที่น่าจะไม่น้อย เพราะพบพอสมควร ส่วนดินเผาสีอิฐนั้นน่าจะเป็นของทำในท้องถิ่น คล้าย ๆ กับที่พบที่บางกล้วยหลายชิ้น สำหรับลูกปัดจากที่ชายคนหนึ่งเก็บหาใส่ถุงไว้ ส่วนมากเป็น Indopacific สีน้ำเงินฟ้าและแดงอิฐ ส่วนเหลืองกับเขียวพบน้อย มีลูกทุ่นไม่กี่ลูก Gold Glass ติดกันมีอยู่คู่หนึ่ง Carnelian ทรง Biconal ขนาดปานกลางมีเม็ดหนึ่ง น้ำและเนื้อไม่งาม
รูปที่ ๒ และ ๘ - ๑๖) เป็นเศษที่มีผู้เก็บไว้ชุดที่ ๑ กลุ่มอินโดแปซิฟิคในรูปที่ ๘ และ ๙ คล้าย ๆ กับรูปที่ ๑ และ ๗ แต่มีเศษก้อนแก้วและลูกปัดที่เกาะติดกันอยู่บ้าง แสดงว่าอาจจะมีการผลิตลูกปัดแก้วกลุ่มนี้ที่นี่ รูปที่ ๑๐ มีแก้วแปลก ๆ ปนอยู่ด้วยหลายแบบ อำพันทองเนื้อและสีสวยมาก แท่งแก้วแบนสีฟ้าน้ำเงินก็คล้ายกับที่พบหลายแห่งในเมืองไทย หลอดด้ายแก้วสีน้ำเงินอันน้อยนั้นชวนสงสัย ส่วนแก้วลาย ๒ ชิ้นนั้น ชิ้นหนึ่งเป็นเศษภาชนะแก้วโมเสกอย่างที่พบแถบเมดิเตอเรเนียน อีกชิ้นเป็นลูกปัดแก้วสี่น้ำเงินลายฟ้า ขาว เหลือง เป็นริ้วแถบแปลก ผมยังไม่เึคยเห็นที่ไหนมาก่อน ที่ตื่นตามาก ๆ ก็คือเศษต่างหู Bicephalus สีน้ำเงินในรูปที่ ๑๑ ที่ถือเป็น Signature ของซาหวิ่นทางตอนกลาง-ใต้ของเวียตนามที่เป็นชาวน้ำชอบเดินทางค้าคายไปทั่วทะเลจีนใต้ในสมัยโบราณเมื่อ ๒,๐๐๐ ปีก่อน ก็มาพบเป็นเศษอยู่ที่นี่ ย่อมแสดงว่าที่นี่มีความสัมพันธ์ ๒ ฟากฝั่งทะเลแน่นอน ที่เขาสามแก้วก็เจอทั้งที่เป็นเศษและที่สมบูรณ์เต็มอัน
จากนั้นรูปที่ ๑๒ ก็เป็นจำพวกแก้วหลอดต่าง ๆ ทั้งที่ตรง แตก และขดงอ รูปที่ ๑๓ เป็นต้นไปเป็นกลุ่มเศษลูกปัดหิน ในกลุ่มหินผลึกแก้วน้ำค้าง น้ำใสมาก ๆ เศษชิ้นหนึ่งเป็น "ไพร" ออกฟ้าสวยมาก อาจารย์ฝรั่งทั้ง ๓ ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีอย่างนี้และไม่เชื่อผมว่าเป็นสีใหม่ที่มาเกาะบนหิน ต้องให้ส่องดูเองจนเชื่อ บอกว่าจะกลับไปค้นคว้าต่อว่าเกิดขึ้นได้อย่างไรกัน มีเศษอมิทิสต์ชิ้นหนึ่งด้วย ส่วนโกเมนนั้นมีเศษมากอย่างเป็นที่สังเกต ทั้งนี้ ดร.บริจิตต์เพิ่งรายงานผลการวิเคราะห์โกเมนชิ้นหนึ่งจากเขาสามแก้วที่เธอนำไปวิเคราะห์ที่ห้องแล็ปสำคัญในเยอรมัน ผลระบุว่าเป็นโกเมนจากอินเดียตะวันตกเฉียงเหนือแถบราชาสถาน อ.เอียนบอกว่าชื่อแหล่งคือ เทือกเขาชื่อว่าอมราวดี
สองภาพสุดท้ายถือว่าเป็นอีกรอยพิเศษของคลองหนู เพราะมีเศษ Etched ทั้งอะเกต ฟอสซิล และ คาร์เนเลียน ลวดลายต่าง ๆ หลายชิ้น รวมถึง ฟืม แต่ที่น่าสนใจอีกชิ้นคืออีแปะดินเผา ทำเป็นรูปดอกอะไรไม่รู้ สุดท้ายเป็นแหวนแตก ๆ วงหินเขียวนั้นเขาบอกว่าเพิ่งหัก บนหัวมีตัวอักขระพราหมีด้วยครับ
เท่านี้ก่อนนะครับ ส่วนภาพที่ ๓ - ๖ ขอเชิญดูกันเอาเองก็แล้วกัน ทั้งนั้นเป็นเศษที่ชาวบ้านเก็บไว้และเอาออกมาให้ได้ทันดูนะครับ