บัญชาชีวิต

เล่าให้แม่ฟังต่อนะครับ รุ่งเช้าวันที่ ๒๕ กย.หลังลอยอังคารแม่ พี่ใหญ่-พี่ศรีกับพ่อพร้อม แล้วก็พี่ตั๋ง-จุ๋มก็แยกกลับแต่เช้า พวกเราที่เหลือก็ยกขบวนไปใส่บาตรที่หน้าพระธาตุกัน วันนี้ท่านเจ้าคุณพระเทพวินยาภรณ์ลงปรารภธรรมและรับบาตรเองด้วยครับ ท่านถามถึงแม่และงานต่าง ๆ ด้วยเพราะเมื่อวันทำบุญนั้นท่านติดกิจนิมนต์อื่นเสียก่อนแล้วครับ

บรรยากาศใส่บาตรหน้าพระธาตุนี้ง่าย ๆ คล้ายที่หลวงพระบางที่เราเคยไปใส่กันมาตรงหน้าโรงแรมที่พักไงครับแม่ แต่หลายอย่างยังไม่ลงตัวเท่าไหร่ พี่ ๆ พากันนั่งบนทางเท้ารอพระและใส่บาตรกันตามในภาพ พระก็ยังน้อย และพอท่านรับพอหรือถือไม่ไหว ท่านก็ไป ได้บรรยากาศอีกอย่าง พี่หงิดกับพี่ตั้วก็ไปใส่บาตรด้วยกันนะครับแม่ แล้วพวกเราจะช่วยกันปรับปรุงและพัฒนากันต่อครับ

หลังใส่บาตรก็ตามที่เต้ยกราบขอโอกาสท่านเจ้าคุณและคณะสงฆ์ไว้ว่า จะมาจัด "กินน้ำชาเสวนาหาแก่นธรรม ที่ร่มโพธิหน้าพระธาตุ หลังใส่บาตรเช้าวันอาทิตย์สุดท้ายของทุกเดือน" ซึ่งหนนี้เป็นครั้งที่ ๒ ชวน อ.บัณฑิต อินทมุสิก มาถอดระหัสธรรมอย่างกระชับจับใจผู้คนมาก ๆ เสร็จแล้วบางคนก็แยกย้าย บางคนก็ตามเที่ยวชมพระธาตุ คล้าย ๆ เมื่อตอนที่พวกเราเด็ก ๆ แล้วพ่อ-แม่-น้าพา พาเที่ยวพระธาตุมาก ๆ ครับ โดยเฉพาะที่พระปัญญาที่พ่อ-แม่-น้าพา ชอบให้เราลองปัญญากันเสมอ ๆ ไงครับ

วันนั้น เต้ยพาเที่ยวตามคู่มือ "ตามรอยธรรมที่นคร...เมืองธรรม" ที่ทำให้ ททท.และแผนผังที่ทำถวายพระธาตุ ในนามของสุธีรัตนามูลนิธิ-บวรนคร ด้วยนะครับ มีคนตามจนจบเกือบ ๑๑ น. เรียกว่า ๕ ชม.สุดสัปดาห์ส่งแม่ก็ได้ครับ

อ้อ ที่พระวิหารหลวงซึ่งตอนแรกเต้ยว่าจะพอ แต่พี่ตั้วไม่ยอม บอกว่าทำให้ครบนั้น วันนั้นกำลังมีบวชอยู่ แต่พระท่านก็ให้เข้าชมได้โดยไม่รบกวนพิธีท่าน แม่เห็นหลวงพ่อทวดหรือยังครับ เพิ่งมีคนเอามาถวายไว้เดือนที่แล้ว พระท่านจึงนำมาประดิษฐานในหมู่สาวก สมกับที่หลวงพ่อทวดท่านมาจากสะทิ้งพระเพื่อบวชเรียนที่เมืองนครจนแตกฉานแล้วตาขุนลกส่งต่อท่านไปอยุธยา ก่อนที่ท่านจะขอลาเมืองหลวงกลับบ้านเกิด จนไปสิ้นที่โคกโพธิ์ ปัตตานีโน่น ดู ๆ ก็ลงตัวดี สงสัยอีกไม่นานน่าจะมีท่านอื่น ๆ ตามมาอยู่ด้วยกระมังครับ.

๓ ตค.๕๙