20161031_1 Some Special Welcome @ Istanbul, the 2nd Day “ถูกฉลองนิดหน่อย” ในวันที่สอง

Details: Written by Super User; Category: บัญชาชีวิต; Published: 31 October 2016; Hits: 1357

Some Special Welcome @ Istanbul, the 2nd Day
“ถูกฉลองนิดหน่อย” ในวันที่สอง
(bunchar.com บัญชาชีวิต 20161031_1)

วันนี้นอกจาก Lonely Planet ที่ติดมือมาจากเมืองไทย เลือกใช้ Eyewitness Istanbul ที่เพิ่งได้จาก Topkapi ในราคาสุดพิเศษ ๓๐๐ บาทเศษ ๆ เป็นคู่มือ เริ่มจากกินอาหารเช้าของโรงแรมที่ด้านหลังสุสาน Zeynep แล้วก็ออกเดินย่าน SultanAhmet แล้วลองเข้า Haghia Sophia อีกรอบด้วย Museum Pass ไม่ได้ เพราะเข้าได้แห่งละหนเดียว ก็เลยตรงไป Sultan Ahmet Mosque ที่กว้างใหญ่มาก เขามีการแนะนำศาสนาอิสลานอย่างเป็นระบบและน่าสนใจเอาไปทำอะไรที่สวนโมกข์มาก จากนั้นก็ลองเลาะหลังมัสยิดผ่านย่าน Arasta Bazaar ที่มาสร้างล้อมทางเข้า Mosaic Museum ไว้เน้นหัตถกรรม ได้ผ้ามัดหมี่อุซเบกิสถานเอามาทำผ้าขาวม้า กับหมวกปักอาร์เมเนียแล้วก็จี้ห้อยของคน Turkmenistan รวมทั้งแผนที่เอเซ๊ยบนหน้ากระดาษอาหรับเก่าพร้อมสำเภากับ Haghia Sophia สวยดี แต่หาสำเภอสุไลมานไม่เจอ มีอีกทีก็เรือโนอาห์เลย

สำหรับ Mosaic Museum ที่เดิมกะว่าน่าจะขอผ่าน แต่ไหน ๆ ก็ผ่านมาแล้วและ Museum Pass ก็ใช้ได้ สุดท้ายจะเสียดายมากหากไม่เข้า เพราะเขาเลาะพื้นบริเวณนี้ที่แต่เดิมน่าจะเป็นพระมหาราชวังใหญ่สมัยโรมัน เฉพาะพื้นที่ปูโมเสกบริเวฯนี้ก็ใหญ่โตมาก แต่ละภาพแต่ละเรื่อง สุดยอดทั้งนั้น จบแล้วเขายังเย็บผ้าขาวม้าให้ไม่เสร็จ ก็เลยออกไปที่บริเวณซึ่งเคยเป็นสนามใหญ่พร้อมอัฒจันทร์ Hipprodome ที่ตอนนี้มี Obelik ที่ขนจากอียิปต์มาตั้งไว้ตั้งแต่สมัยโรมันโน่น ก่อนที่จะแว่บไปเวียน The Museum of Turkish & Islam Art ในวังโบราณที่เขาจัดไล่เลียงมาตั้งแต่สมับกาหลิบอุมัยยาด อับปาสิด เมื่อแรกเริ่มอิสลามซึ่งส่งผ่านอะไรบางอย่างไปถึงเมืองไทยเรื่อย ๆ มาแล้ว แม้จะงั้น ๆ แต่ห้อง “ของศักดิ์สิทธิ์” ที่นี่จุใจมากเพราะเขาจัดไว้ให้นึกถึงห้องพระ มีข้อความ เสียงสอดคล้องและนำจิตภาวนาได้ด้วย สิ่งของก็เป็นกุญแจและผ้าคลุมหินกาบะ พระคัมภีร์อัลกุรอาและหนังสือต่าง ๆ รวมทั้งเส้นผมพระมะหะหมัดที่เก็บรักษาในกล่องกลักแล้วห่อหุ้มผ้างามหลายชั้นไว้ในหีบห่ออันวิจิตร ชวนนึกถึงพระธาตของชาวเรามาก ๆ เลย ของศักดิ์สิทย์นี้ ที่ Topkapi มีมากแต่ห้ามถ่ายภาพ ที่นี่ถ่ายได้แม้ห้ามใช้แฟลชก็ตาม

จบจากนี้ แวะรับผ้าแล้วยังมีเวลาว่างอีกมาก ก็เลยเลือกเก็บย่ายไกล ๆ ด้วย Taxi ได้อีก เลือกไปที่ St. Saviour at Chora ตรงชานกำแพงเมืองที่หลายหนังสือแนะนำกันมาก เป็นโบสถ์คริสต์สมัยไบเซนไทน์ที่มีภาพโมเสกและเฟรสโกเดิมอย่างโดดเด่นและวิจิตรมาก ๆ สมคำเล่า หากไม่ไปคงเสียดายแย่ จากนั้นจับแทกซี่ขี้โกงไปอีกย่าน Beyoglu, Cukurcuma, Istiklak Caddesi & Galata Tower ซึ่งถึงแล้วจึงเห็นว่าไม่น่าไป แถมโดนแท็กซี่ขี้โกงเข้าอีก ถือเป็นสิ่งเตือนตัวเองอีกครั้งหลังจากทำตัวสบาย ๆ มาวันหนึ่งกว่า ๆ สำหรับ Beyoglu กับ Cukurcuma ที่เขาบอกว่าตกเย็นจะเป็นตลาดของเก่า ตกเย็นก็เป็นย่านกินดื่มสนุกสนานนั้น เมื่อไปถึงเขากำลังเริ่มจัด แต่ดูบรรยากาศและของเท่าที่เห็น ไม่น่าสนใจและไม่รู้สึกว่าน่าอยู่เท่าไหร่ เพียงได้เห็นก็หารถจะกลับ Sultan Ahmet Square แต่ยังพอมีเวลา กับคืนนี้กะว่าจะเข้าฮาเร็ม Turkish Bath ที่สุลต่านสุไลมานสร้างให้มเหสีสุดรัก ก็เลยเปลี่ยนใจให้รถไปส่งที่ Suleymaniye Mosqe ดูจนรอบก็พอดีเขาปิด ได้เห็นหมดทั้งสุสานสุไลมานกับพระมเหสี รวมทั้งสถาปนิกคู่บัลลังค์คนสำคัญแห่งยุคสมัย ชื่อ Sinan จากนั้นจึงจับรถแทกซี่ขี้โกงอีกคันกลับมาลงตรงหน้าถังน้ำใหญ่ Basilica Cistern ใต้ดินที่มีรูปหัวเมดูซาวางรองเป็นฐาน จึงลงไปนั่งจ้องหน้าดูเผื่อว่าจะได้กลายเป็นหินไปด้วย

จบท้ายคืนนี้ ด้วยบรรยากาศเรื่อย ๆ ท่ามกลาง ๒ มหาวิหาร Haghia Sophia & Blue Mosque โดยมีข้อสังเกตมาก ๆ ว่าเราน่าจะเป็นเป้าสายตาเพราะหน้าแปลกและมาคนเดียว มีชายอาหรับอายุราว ๆ ๒๐-๓๐ เวียนเข้ามาทักถึง ๕ คน ทั้งมาเดี่ยวและมาคู่ ในทำนองให้ช่วยถ่ายรูปหน่อย มาจากไหน มาจากดูบ้าง จากโน่นนี่บ้าง คืนนี้ได้ข่าวว่ามีปาร์ตี้ ไปกันไหม ไปเป็นแขกของเขาได้ไม่มีค่าใช้จ่าย ต้องหลบเลี่ยงเบี่ยงหนีจนเบื่อ ก็เลยจบวันด้วยการเข้าไปซื้อบริการ Turkish Bath แบบ ๑ ชั่วโมงใน Ayasofya ที่สุลต่านสุไลมานสร้างถวายมเหสีรัก Hurrem Sultan Hamami เมื่อปี พ.ศ.๒๐๙๙ ที่เพิ่งแวะไปเจริญมรณสติ ณ สุสานมา ราคาก็เกือบ ๆ ค่าที่พัก ๓ คืนรวมกัน มีทั้งขัด ถู ฟอก สระ แล้วก็นวด ในห้องของมเหสี ณ ที่นั่งและอ่างน้ำซึ่งครั้งหนึ่งสุลต่านสุไลมานเคยมาสรงสนานกับพระน้องนางด้วย

พอเท่านี้นะครับ วันนี้กะว่าจะไปล่องเรือที่ช่องแคบฟอสฟอรัส กับ เข้าย่านตลาด Grand Bazaar ที่มี Spice Bazaar และ Book Bazaar กับอะไรต่ออะไรอีกหลายอย่าง แล้วค่อยเล่าคร่าว ๆ อย่างนี้อีกนะครับ

๓๑ ตุลาคม ๕๙