logo_new.jpg

รายงานจากมะริด-ตะนาวศรี ครั้งที่ ๒๙ ก่อนอวสาน ตามที่ตั้งโจทย์การไปมะริด-ตะนาวศรีรอบนี้ เพื่อสืบค้นหารอยลูกปัดและรอยแรกพระพุทธศาสนาที่มาถึงเอเซียอาคเนย์และไทย ที่อู่ทอง : แม่กลอง-ท่าจีน รวมทั้งหารอยไทยทั้งหลายด้วยนั้น แม้ไม่พบอะไรมากมายเท่าที่ควรจะพบ ทั้งที่ได้ผู้ช่วยนำทางระดับพระกาฬ ตัวแทนหอการค้ามะริดที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย มาประจำอยู่ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และท่านผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบอนุญาตให้นำทางเป็นกรณีพิเศษ เข้าพักเรือนรับรองของเมืองตะนาวศรีที่ไม่เคยรับคนต่างด้าวมาก่อน มีนายอำเภอและนานาปราชญ์ รวมทั้งผู้นำท้องถิ่นด้านประวัติศาสตร์โบราณคดี ศิลปวัฒนธรรมช่วยด้วย แต่ก็ถือว่าได้พบว่ายังไม่มีการพบอะไร ๑) ร่องรอยมนุษย์นั้นมีมาก่อนประวัติศาสตร์แน่ ดังที่ได้พบขวานหิน หลักฐานที่เก่าสุด อาจารย์ภูธรว่าคือศิวลึงค์หินประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๐ แต่ผมว่าลูกปัดอะเกตกับทองทั้งหลายที่อาจจะถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อประวัติศาสตร์ แต่ต้องมีอะไรมากกว่านี้จึงจะยืนยันรับรองได้ โดยเฉพาะที่ใต้เมืองตะนาวศรีที่ว่ากันว่าพบขึ้นมาเรื่อย ๆ หลังฝนตกหรือขุดดินทำอะไร รวมทั้งที่อื่น ๆ ที่มีแต่คำบอกเล่า ๒) รอยพระพุทธศาสนาแรกนั้นไม่พบอะไรนอกจากเรื่องเล่าและเสมาศิลาที่อาจเก่าก่อน แต่ที่สำคัญคือรอยพระพุทธศาสนาจาก "ไทย" ที่มากมายเต็มไปหมดโดยชาวพม่าก็ยังรักษาไว้ไม่เปลี่ยนแปลงจนหมดเค้า ไม่ว่าจะเป็นอารามวิหาร องค์พระและสถูป ๓) รอยที่พบมากที่สุดคือรอย "ไทย" นอกจาก "วัดไทย" แล้วมีคนไทย "ไม่พลัดถิ่น" อยู่ทั่วไป อะไร ๆ อีกหลายอย่างก็ล้วน "ปนไทย" ทั้งนั้น ที่สำคัญคือร่องรอยประวัติศาสตร์ที่สัมพันธ์กับไทยช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อปลายอยุธยาและต้นรัตนโกสินทร์ ทั้งการค้านานาชาติ การขับไล่ฝรั่ง การเสียกรุง การกู้ชาติ การรับมือการไล่ล่าอาณานิคม จนถึงการฟื้นฟูชาติจนถึงทุกวันนี้ ๔) อีกรอยที่มีบทบาทไม่น้อยในดินแดนแถบนี้ของพม่า คือ "รอยนานาชาติ" ที่มีไม่น้อย นอกจากลูกปัด ศิวลึงค์ พระพุทธศาสนา แล้วยังมีอิสลาม คริสต์ แขก ฝรั่ง จีน แท่งโลหะที่อาจจะเป็นดีบุกทั้ง ๓ แท่ง ที่ตะนาวศรี อาจได้รับการรักษาและศึกษาให้ดีอาจบอกอะไรไม่น้อยเพราะบนนั้นดูเหมือนมีอักขระอาหรับอยู่ด้วย สุดท้ายนี้ขอลาด้วยชุดภาพที่หน้าท่าเมืองมะริด มองเห็นพระนอนในศาลาใหญ่บนเกาะปะติดปะต่อ คือองค์ที่บอกว่าหากมุดอุโมงค์ที่พระพุทธบาทบนวัดป่าจะมาโผล่ที่นี่แต่เขาอุดปิดรูแล้ว ท่าเรือมะริดวันนั้น พบ ๓ ป้ายระบุวิสัยทัศน์พันธกิจอย่างน่าสนใจมาก ว่า " Towards A New Modern Developed Nation" พอเดินลงไปแล้วหันกลับมาบนฝั่ง ตั้งป้ายประกาศอย่างนี้ว่า "Coastal Are Myeik Must be Clean and Pleasant" ทั้งที่เมื่อวานเย็นตอนน้ำลงที่เวียนมา ยังพบขญะอยู่เต็มไปหมด แต่หากเมื่อไรเครื่องติดและเข้าที่ พลังอันมหาศาลของเขา ไม่ว่าจะเป็นคนและทรัพยากรตลอดจนวินัยและศรัทธา ไทยเราห้ามประมาทเป็นอันขาด เฉพาะเรือประมงที่จอดท่าและออกหาปลาส่งไทยที่ระนองทั้งนั้น หากหันกลับมาที่มะริดหมด ระนองก็ร้างได้ในทันที อ่านป้ายที่สามแล้ว "พี่ไทย" ทั้งหลายอย่าได้ประมาท "Thaninthayi Division Should be the Oil Bowl of Myanmar" พม่าเขาพ้นภัยคุกคามของอังกฤษที่เข้ามาคุมและยุบชาติไปเป็นจังหวัดหนึ่งของอินเดียและดูดทรัพยากรไปเป็นร้อย ๆ ปีมาระยะใหญ่แล้ว มนต์ดำที่วางไว้ดังปรากฏบนด้านหลังเหรียญทองที่ระบุชัดว่า พระเจ้าจอร์จจอมจักรพรรดิแห่งอินเดีย มีจอมเทพขี่ม้าเทวดามาไล่ล่าทิ่มแทงพญานาคและมังกรของพวกเราอย่างโหดเหี้ยมอำมหิต แถมถึงทุกวันนี้ ยังตั้งอยู่ระหว่าง ๒ มหาอภิอำนาจใหม่ของโลกคืออินเดียกับจีนแบบไม่ต้องง้อไทยเสียด้วยซ้ เฉพาะแหล่งหยกและทับทิมรวมทั้งสารพัดพลอยที่โมก๊อก (มงกุฎ) กับไข่มุกงามในทะเลอันดามัน ที่ผมเอากลับไปเป็นตัวอย่าง ก็เหลือแล้ว ไหนยังน้ำมัน ฯลฯ อีกมากมาย ที่สำคัญพระพุทธศาสนาของเขาก็ตั้งมั่นหนักแน่นกว่าไทยทั้งปริยัติและปฏิบัติ รวมทั้งการเผยแผ่ด้วย สุดท้ายของแถมสายสร้อยเชือกใส่หลอดทองที่พบในตลาดซึ่งทำให้นึกถึงนานาหลอดทองโบราณที่พบทั่วไปทั้งที่ตะนาวศรี ตลอดลงไปทั่วทั้งสองชายฝั่งของภาคใต้ประเทศไทย แต่ก่อนเขาคงใช้กันอย่างนี้กระมังครับ สำหรับกุหลาบช่อสุดท้าย ถ่ายได้ที่ซอกบ้านในตลาดตะนาวศรี สวยดี นึกถึงกุหลาบมอญที่คนไทยชองเรียกกัน ตอนหน้าจะจบด้วยเรื่อง "มอญ" ที่เคยเป็นเจ้าแถบนี้แล้วทนไทยกับพม่าไม่ได้ เพราะขาไปได้พบขุมคนมอญที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่ง.

 

 
รูปที่1
 
รูปที่2
 
รูปที่3
 
รูปที่4
 
รูปที่5
 
รูปที่6
 
รูปที่7
 
รูปที่8
 
รูปที่9
 
รูปที่10
 
รูปที่11
 
รูปที่12
 
รูปที่13
 
รูปที่14
 
รูปที่15
 
รูปที่16
 
รูปที่17
 
รูปที่18
 
รูปที่19
 
รูปที่20
 
รูปที่21
 
รูปที่22
 
รูปที่23
 
รูปที่24
 
รูปที่25
 
รูปที่26
 
รูปที่27
 
รูปที่28
 
รูปที่29
 
รูปที่30
Joomla templates by a4joomla
rtp slot https://www.sidiap.org/rtp-live-slot//