เพื่อแผ่นดินเกิด

เมื่อวานนี้ที่พระธาตุ
ท่านเจ้าคุณใหญ่บอกให้พาคณะพระคิลานธรรมไปที่พระปัญญาด้วย
เพื่อจะได้หัวใจพระพุทธศาสนากลับไปทำงานกันต่อ

พอผ่านวิหารโพธิ์ลังกาที่แต่ก่อนเคยเปิดให้ขึ้นไปบูชาโพธิ์กันได้นั้น
ผมขอเปิดกุญแจพาคณะขึ้นไปให้ได้เห็นครบ 
๓ องค์สำคัญของพระธาตุนครในแนวเหนือใต้
เริ่มจาก "โพธิ์ลังกา" ทางเหนือนี้
มี "องค์พระบรมธาตุ" อยู่กลาง
ล่างลงไปคือ "พระใหญ่" ที่ทุกวันนี้มีพระวิหารหลวงหุ้มไว้

บนลานโพธิ์นี้ มีพระรูปหนึ่งเนื้อสำริด
คนแต่ก่อนเรียกท่านว่า "พระเจ้าชู้" ???
ทุกวันนี้ทำฐานปูนต่อเหล็กเส้นและเชื่อมมัดกับองค์พระไว้อย่างแน่นหนา
รู้ไหมว่า ทำไม ?

เล่ากันว่า บางวันบางเวลาหาท่านไม่เจอ ไม่รู้ไปไหน
บางคนบอกว่า เห็นท่านที่โน่นที่นี่เสมอ ๆ โดยเฉพาะยามค่ำคืน
แรก ๆ ก็ว่า "พระหนี่เที่ยว"
ไป ๆ มา ๆ กลายเป็น "พระเจ้าชู้"
สุดท้ายตั้งเสาต่อเหล็กมัดบัดกรีติดตายไว้เลย

ตกลงจริงไหม หรือเพียงอุปมาอุปไมย
ไว้เตือนพระ กะ ย้ำบทบาทของฆราวาส
ว่า "อย่าไปไหนนัก" "อย่างหนีเที่ยว" "อย่าเจ้าชู้"
ทั้งกาย ทั้งใจ

จากนั้น ที่เจดีย์พระปัญญา
ซึ่งพ่อแม่และน้าพาพวกเราไปกันเสมอ ๆ สมัยเด็ก ๆ เมื่อ ๕๐ ปีก่อน
แล้วบอกว่ามีลายแทงขุมทรัพย์ ระบุไว้ว่า
"หันหลังเข้าไป เหล็กในแทงตา เดินหน้าออกมา กาขี้ไส่หัว"
แล้วให้ทั้งพระทั้ง อ.โสรีช์ โพธิแก้ว เลือกวิธีที่จะเดินเข้าไป

เรื่องเล่าว่า คนส่วนใหญ่ก็เชื่อตามคำบอก ไม่กล้าทำตามคำเตือน
กระทั่งมีนายคนหนึ่ง ไม่คิดเชื่อ เพราะไม่เห็นเป็นเหตุผลควรเชื่อ
จึงเดินหันหลังเข้าไป กราบพระแล้วก็หันหน้าออกมา
จึงได้พบว่าบนหลืบเพดานของห้องสถูป มีช่องลับใส่ขุมทรัพย์อยู่

ผู้รู้บอกว่า อุปมานี้ บอกว่าอย่าเชื่อตามที่เขาบอกเขาเล่าอย่างไม่สงสัย
จึงจะพบทรัพย์แท้ ทีเรียกว่า "ปัญญา"

ผมกลายเป็นคนอย่างนี้ อาจจะด้วยถูกพาไปบ่อยมากก็ได้นะครับ

ลูกจัน