logo_new.jpg

เมื่อเมืองนครบ้านผม"สุขที่สุดแทบที่โหล่ของประเทศไทยเราแล้ว" คุณอยู่จังหวัดไหนในเมืองไทย ดูกันหน่อยไหมว่าเท่าไหร่ ? และจะทำกันอย่างไรกันต่อไปได้ ? ทั้งที่บ้านคุณ และที่บ้านผม รวมทั้งประเทศไทยของเรา ผมมักติดตามสถิติเหล่านี้เสมอ ๆ เช่น ค่าวัดความสุข อายุเฉลี่ย เหตุการตาย สถิติอาชญากรรม ซึ่งอาจถือเป็นมาตรวัดผลของการพัฒนา และทางการน่าจะเอามาเป็น KPI มากกว่าดูที่รายงานอย่างที่ทำ ๆ กันมากมายไปหมด จนบางแห่งแทบไม่สนใจทำการพัฒนาอะไร ได้แต่เฝ้าดูที่ KPI กันยกใหญ่ วานนี้ "พี่เหลิมพระธาตุ" ไชโยโห่หิ้วกับ KPI นี้ที่วัดออกมาได้ว่าคนเมืองนครบอกว่ามีค่าความสุขที่ร้อยละ ๓๑.๑ ลำดับที่ ๗๒ จากทั้งหมด ๗๗ จังหวัดประเทศไทย โดยจังหวัดสูงสุด ลำดับ ๑ คือแม่ฮ่องสอน ค่าความสุขที่ร้อยละ ๖๐.๙ มากกว่าบ้านเรา ๑ เท่าตัว ต่ำสุดคือกรุงเทพ ลำดับที่ ๗๗ ค่าความสุขที่ ๒๐.๘ หรือบ้านเรามากกว่าอยู่ครึ่งเท่าของกรุงเทพ ซึ่งแทบทั้งหมดต่ำอย่างเหลือเชื่อว่าคนไทยจะรู้สึกกันได้ถึงระดับนี้ ไล่ดูให้ดี จะพบว่าครึ่งข้างบน ๓๓ จังหวัดแรก ล้วนเป็นจังหวัดเล็ก ๆ ไม่โดดเด่นด้านการพัฒนาอย่างที่นิยมเรียกหากัน ตั้งแต่ ๕, ๑๐, ๒๐ ถึง ๓๐ จังหวัดแรกเลย มีแต่โคราช นครราชสีมาที่แปลกแยกมาอยู่ในครึ่งแรกนี้ได้ แต่ก็ลำดับตรงกลาง ลำดับที่ ๓๓ พอดี มีสุราษฎร์ไล่มาที่ ๓๔ พอดูที่ ๑๐ จังหวัดท้าย ไล่มาแต่ปลาย กทม. / สมุทรปราการ / ภูเก็ต / ลพบุรี / นราธิวาส / นครฯ / สิงห์บุรี / ระยอง / ยะลา / สงขลา ภาคใต้ได้ครองถึง ๕ แห่ง โดยสงขลา ยะลา นราฯ ภูเก็ต เราน่าจะพอนึกออกว่า "ไม่สุข" ด้วยเหตุอะไร ส่วนนครของเรานั้น อะไรคือเหตุ ? อยากชวนช่วยกันคิดค้นตามหลักอริยสัจ ๔ ที่พระพุทธองค์ทรงสอนไว้ ทำนองเดียวกับหลาย ๆ จังหวัดที่ว่าเป็น Dream Destination ของทั้งคนไทยและโลก เช่น อุดร ขอนแก่น เชียงใหม่ อุบล เมืองกาญจน์ ก็ตกไปอยู่แถบท้ายแทบทั้งนั้น อีกวิธีดูที่นิยมทำกันเป็นรายภาคเพื่อการเปรียบเทียบและนำไปขบคิดขับเคลื่อนพัฒนาการ เฉพาะภาคใต้ ๑๔ จังหวัด ไล่จากต้นได้ดังนี้ พังงา-๒ / ระนอง-๒๕ / สตูล-๓๒ / สุราษฎร์-๓๔ / กระบี่-๓๗ / ชุมพร-๔๕ / ปัตตานี-๔๙ / พัทลุง-๕๓ / ตรัง-๖๑ / สงขลา-๖๘ / ยะลา-๖๙ / นคร-๗๒ / นรา-๗๓ และ ภูเก็ต ๗๕ ทั้งที่คนทั้งโลกให้สมญาว่าเกาะสวรรค์ เหนือกว่า เมืองเทวดา-กรุงเทพ กับ ปราการทะเล-ปากน้ำ เพียง ๒ จังหวัดเท่านั้นเอง ท่านทั้งหลายอยู่ในจังหวัดไหน ภาคไหน (แต่ประเทศไทยแน่ ๆ) ลองไล่เลียงและวิเคราะห์หาเหตุ เพื่อการพัฒนาแก้ไขและไปต่อให้ตรงต่อเหตุกันดูนะครับ ทั้งนี้และทั้งนั้น จะต้องเข้าใจวิธีการศึกษาและสรุปนี้ด้วยว่าเขาใช้วิธีอะไร งานชิ้นนี้ผมไม่ได้ค้นต่อว่าพี่เหลิมเอามาจากไหน เขาใช้วิธีวิทยาอะไร แต่ส่วนใหญ่มักทำกันแบบง่าย ๆ คือไล่ถาม "พลเมือง" ของแต่ละพื้นที่ว่า "คุณรู้สึกว่ามีความสุขแค่ไหน" ตอบมาเท่าไหร่ก็สรุปเท่านั้น นั่นอาจจะมิใช่ค่าแท้ที่ถูกถ้วน แต่เป็นเพียงค่าสัมพัทธ์ตามความรู้สึกของกลุ่มตัวอย่างที่ถูกสุ่มสำรวจ ขณะที่สำรวจ จำนวนที่สำรวจ ฯลฯ สารพัดมีความเบี่ยงเบน ซึ่งบางกรณีศึกษาเขาจะนำค่าอื่นมาประกอบด้วย เช่น ดัชนีชีพ ดัชนีอาชญากรรม ดัชนีการพัฒนา ฯ เอาเป็นว่านี้อาจมิใช่ค่าแท้ที่ถูกถ้วน แต่ก็มีประโยชน์ในระดับหนึ่ง อย่างน้อยก็พอได้รู้ภาพว่า มีผลการสำรวจและออกมาอย่างนี้ ว่าเมืองนครฯ ของเรา (และบ้านเมืองของคุณ) มีคนเขาสำรวจออกมาว่า "สุขที่สุดแทบที่โหล่ของประเทศไทยเราแล้ว" เชิญหาความสำราญบานใจแล้วสอบทานความสุขของบ้านเมืองคุณก่อนสิ้นปีนี้เพื่อก้าวข้ามสู่ปีหน้าให้สุขแท้ทั่วกันอย่างยั่งยืนยิ่ง ๆ ขึ้นนะครับ

 

 
รูปที่1
Joomla templates by a4joomla
rtp slot https://www.sidiap.org/rtp-live-slot//