เพื่อแผ่นดินเกิด

ตั้งแต่วันที่ ๘ ตอนครบเดือนที่แม่ตาย พระอาการของในหลวงเข้าขั้นวิกฤต จนเมื่อมีประกาศสำนักพระราชวังในวันที่ ๙ พวกเราทุกคน รวมทั้งน้าพาก็รู้เลย เพราะว่าเหมือนแม่เมื่อวันที่ ๖ - ๗ แทบทุกอย่าง แต่เราก็ยังหวังว่าคณะแพทย์และสรรพสิ่งจะพลิกฟื้นพระพลานามัยของพระองค์ได้ จนเมื่อเช้ามีประกาศอีกฉบับที่ชี้ว่าหาได้เป็นดังหวังไม่ ถึงเที่ยง เต้ยก็เลยหารือกับน้อง ๆ ที่สวนโมกข์กรุงเทพว่าพรุ่งนี้เย็น ๑๔ ตุลา เราจัดชุมนุมภาวนาข้ามคืนถวายกันดีกว่า โดยตอนสี่โมงก็เริ่มมีกระแสชัดเจนมาว่าทรงสวรรคตแล้ว เต้ยก็เลยลงไปร่วมสวดมนต์ทำวัตรเย็นชุดใหญ่ถวายพระกุศลทันที กระทั่งเมื่อ ๑ ทุ่มนี้เอง สำนักพระราชวังก็ออกประกาศการสวรรคต ตามด้วยนายกแถลงไว้ทุกข์ทั้งประเทศ ๑ ปี ตอนนี้ที่ประชุมสภากำลังยืนถวายอาลัย ๙ นาทีมีการถ่ายทอดสดด้วยครับ ส่วนพรุ่งนี้บ่ายโมงจะเคลื่อนพระศพจากศิริราชไปรดน้ำที่พระที่นั้งดุสิตตอน ๕ โมงเย็น

ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเป็นธรรมดา แต่ทำไงได้ละครับแม่ น้ำตาก็รื้นเป็นระยะ ๆ ก้อนสะอึกก็อัดอกบ้าง แม้จะน้อยกว่าเมื่อคราวแม้(ซึ่งก็เป็นธรรมดาเหมือนกัน) ตะกี้โทรหาน้าพาที่นคร ก็ฟังว่าทำใจได้ครับ พ่อของเพื่อนติ่งที่ไปช่วยงานแม่ทุกคืนก็มาตายวันนี้ เพิ่งกลับมาจากรดน้ำที่วัดธาตุทอง บอกว่าวันนี้มีศพใหม่ถึง ๘ ศพเลยครับ

พร้อมนี้ เต้ยก็เลยชวนติ่งถ่ายรูปปั้นดินพระเจ้าอยู่หัวที่เด็กคนหนึ่งปั้นอยู่ที่เพชรบูรณ์แล้วเต้ยไปเห็นเมื่อเกือบสิบปีก่อนแล้วขอปันเอามาฝากแม่ แม่ให้วางไว้บนตู้ในห้องรับแขกกับเหนือตู้ใส่โกศอัฐิพ่อกับพี่เติบที่ตอนนี้มีของแม่ด้วย รวมทั้งรูปแม่เมื่อครั้งรับเสด็จพระเจ้าอยู่หัวที่เมืองนครตั้งแต่ ปี ๒๕๐๒ ที่หน้าบริษัทบวร ท่าวัง และ ๒๕๐๗ ที่วัดพระธาตุ มาบอกใคร ๆ ให้สมกับที่แม่นับถือบูชาพระองค์อย่างยิ่ง.

ราตรีสวัสดิ์ครับแม่.

๑๓ ตค.๕๙