การพระศาสนา
- Details
- Written by Super User
- Category: งานศาสนา
- Published: 23 April 2017
- Hits: 1413
The Challenge of ThaiBuddhaMonThon
(bunchar.com การพระศาสนา/เพื่อแผ่นดินเกิด 20170422_1)
#งานพุทธมณฑลถวายพระพุทธองค์
#๑๑๑ปีพุทธทาส
โดยรวมที่คิดกันวันก่อนนั้น
ผมเสนอหลัก ๓ เพียง ๓ ประการใหญ่ คล้าย ๆ SWOT Analysis
หนึ่ง ที่นี่ มีจุดแข็งอะไร ?
สอง แล้วจุดอ่อน อยู่ตรงไหน ?
สาม โอกาสมี อย่างไรบ้าง ?
สี่ ที่ท้าทาย มีอะไร ?
ในขณะที่หลาย ๆ คนก็บอกว่า
กรณีศึกษาของสวนโมกข์กรุงเทพนั้นทรงคุณค่า
ขอให้ช่วยเอามาแนะในการขับเคลื่อนด้วย
พวกเราไปกัน ๓ คน มีแอน โจ้ ผม
เสนอกันไปรวม ๆ ประมาณนี้
หนึ่ง
นอกเหนือจาก ๓-๔ จุดแข็งปัจจุบันที่มีอยู่ไม่น้อย คือ ชื่อว่าพุทธมณฑลไทย กึ่งพุทธกาล / มีพระทศพลญาณฯ ประธานพุทธมณฑล / แถมมีสังเวชนียสถาน ๔ ตำบล กับ หอพระไตรปิฎกหินอ่อนแห่งเดียวในประเทศ (แต่ใครไม่ค่อยรู้) กับมีสวนป่าขนาดยักษ์ ๒,๕๐๐ ไร่ ตั้งอยู่ชานมหานครที่กำลังจะไม่ไกลมากแล้ว และทุกวันนี้ก็เป็นเสมือนสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่คนนิยมใช้ในฐานะนั้นมาก ๆ
ที่สำคัญ รัฐไทยและคณะสงฆ์ก็ดูว่าจะเอาใจใส่จริงจัง มีเจ้าพระคุณสมเด็จพุทธชินวงศ์ ซึ่งมีหลายคุณวิเศษสามารถเสกอะไรได้สารพัด
สอง
ที่เป็นห่วงกันก็มีหลายสิ่ง อาทิ การเข้าถึงซึ่งสลับซับซ้อนมาก ยากต่อการซึมซับคุณค่าเพราะมักจะหลงทางที่วนเวียนเป็นวงกต เพียงแต่องค์พระฯ ก็ถึงได้ยากยิ่ง ครั้งถึงแล้วก็ยากอย่างยิ่งเพราะทั้งร้อนและแล้ง แถมอะไรก็ไม่รู้เข้าไปอีก
ที่สำคัญคือการจัดการ บำรุงรักษาและบริการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญมากกว่าการปรับปรุงพัฒนาสิ่งก่อสร้าง
สาม
ที่ลองเสนออย่างง่ายและไม่น่ายาก หากจะเอาจริง
ก) ด้านสถานที่
ควรเริ่มที่องค์พระและรายรอบให้คนไปได้ถึงแล้วเอิบอิ่มที่ตรงนั้น เพราะเป็นหมุดหมายอันแสนงดงาม ยิ่งใหญ่และสำคัญสุดอยู่แล้ว กับ ๔ สวนสังเวชนียสถานที่มีหินจำหลักขนาดยักษ์ แล้วก็หอพระไตรปิฎกศิลามหึมา ควบคู่ไปกันสวน-ป่าต่าง ๆ ที่งดงามมากอยู่ไม่น้อย หากมีการปรับนิดหน่อยก็น่าจะได้
หากจะเพิ่มเรื่องราวและให้เกิดการมีส่วนร่วมก็ทำได้หายแนวทาง อาทิ
ชักชวนคณะสงฆ์จากภาคหรือจังหวัดต่าง ๆ มาร่วมสร้างปูชนียสถานจำลองของแต่ละภาค/จังหวัด/พื้นที่ ขึ้นที่นี่ อาทิ มีจอมเจดีย์ ๔ ภาค ฯลฯ
หรือน้อมนำให้เกิดการร่วมกันจำลองรอยพระพุทธศาสนาสำคัญของไทยไว้ที่นี่ เช่น หากจะเอาเฉพาะทวารวดีที่บ่มเพาะในย่าน "ท่าจีน-นครชัยศรี" นี้จนพระพุทธศาสนาตั้งมั่นในแดนนี้ ก็มีมาก ได้ทั้ง ธรรมจักร-กวางหมอบ / เสมาอีสาน / พระพนัสบดี / นานาคาถา / และรูปพระแบบต่าง ๆ
หรือจะให้สนุก ก็ชวนศิลปิน-นักศึกษาสร้างประติมากรรมมาตั้งได้หลายระดับ โลกียะก็อยู่นอก ๆ โลกุตตระก็ให้อยู่ใน ๆ เพราะเห็นทำกันมาก หาที่วางไม่ค่อยได้ ดังที่ ม.ศิลปากร สนามจันทร์ที่แน่นไปหมดแล้ว
ข) ด้านกิจกรรม
นอกจากกิจกรรมใหญ่อภิฯ ที่ปีหนึ่งมีไม่กี่ครั้ง กับการบริหารการบริการต้อนรับคนมาไกลเพื่อแสวงบุญสักการะ กับคนใกล้ที่มาพักผ่อนออกกำลังกายได้เรื่อย ๆ พวกเราเสนอแนะนำร่องด้วยกิจกรรมเดียวเท่านั้น คือ ทำให้ที่นี่กลายเป็นศูนย์ภาวนาปฏิบัติธรรม ซึ่งทำได้ใน ๒ ลักษณะ ณ สามมุมของพุทธมณฑลซึ่งมีฐานอยู่แล้วด้วย
กลุ่มอาคารต่าง ๆ หลายขนาดด้านมุมตะวันออกเฉียงใต้กับเฉียงเหนือ ซึ่งมักจะร้างและว่างงาน มีอะไรนาน ๆ ครั้ง หากปรับให้เป็นศูนย์อบรมภาวนาปฏิบัติธรรมของชาติ ในนามของคณะสงฆ์ แล้วอาราธนานิมนต์ครูบาอาจารย์แต่ละสำนัก-คณะ เวียนกันมาอย่างเป็นระบบต่อเนื่อง เพียงเดือนละครั้งจนตลอดปี ทุก ๆ ปี ผมเชื่อว่าจะมีคนทั้งพระ-คณะที่จะมา คนที่จะมาช่วย รวมทั้งที่จะมาเข้าร่วมจนติดระเบิดเถิดเทิง ยิ่งเจ้าพระคุณสมเด็จพุทธชินวงศ์เป็นประธานด้วยแล้ว อาจจะเพิ่มเรื่องการเป็นศูนย์เรียนรู้พระปริยัติสัทธรรมเข้าไปด้วยก็ไม่น่าจะยาก อาจจะเกิดการเข้าคิวรอกันเป็นปี ๆ ก็ได้ไม่น่าจะยาก
ที่มุมตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งทำเป็นธุดงคสถานนั้นก็น่าทำอีกแนวมาก ๆ เพราะพวกเราเคยเข้าไปขอใช้เป็นประจำเดือนมาปีหนึ่ง สำหรับการฝึกอบรมภาวนาแบบถือธุดงค์กันได้อย่างดีเยี่ยม
เมื่อเริ่มอย่างนี้ พุทธมณฑลก็จะมี ๒-๓ พื้นฐานสำคัญ คือใจกลางพร้อมระบบบริการ ฐานการส่งเสริมการศึกษาและปฏิบัติ พร้อมกิจกรรมพิเศษเป็นครั้งคราว ก็จะค่อย ๆ ปรับทิศแนวทางจนเป็นที่รับรู้ ที่สำคัญคือมีพระและนักปฏิบัติธรรมเข้ามามากขึ้น ๆ กิจกรรมที่เนื่องอื่น ๆ จะตามมาไม่น่าจะยาก ทั้งการใส่บาตร ทำบุญ สวดมนต์ นั่งสมาธิภาวนา จากนั้นกิจกรรมอื่น ๆ ก็จะค่อย ๆ ตามเข้ามา หรือคิดขยับริเริ่มสร้างสรรค์กันต่อ
หากเป็นเช่นนี้ อะไร ๆ ก็จะเกิดขึ้นได้จนเป็นพุทธมณฑลที่แท้ของทั้งไทยและทั้งโลก
เชื่อได้ว่าจะยิ่งกว่าสวนโมกข์กรุงเทพเป็นไหน ๆ
สี่ ที่ท้าทาย มีอะไรไหม ?
ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ กำลังท้าทายตัวเองอยู่เหมือนกันว่า คิดอย่างนี้แล้วใครจะทำ ? ทำไหม ?
ท่านทั้งหลายว่าไงละครับ ?
ฝากคณะอาศรมศิลป์
ไปกราบท่านเจ้าพระคุณสมเด็จฯ
ดูก่อนก็แล้วกันนะครับ
ผมไม่ได้ท้าใครเลยครับ
แต่งานนี้ หนีไม่พ้นคณะสงฆ์ไทย กับ รัฐไทย
รวมทั้งชาวพุทธไทยทั้งหลาย
รอฟังความคืบหน้ากันต่อไปนะขอรับ
ว่าแป๊ก หรือ ไป
ผมทำให้แล้วนะครับพี่ ๆ และเพื่อน ๆ ที่อาศรมศิลป์ มีอะไรอีกบอกได้เสมอครับ.
๒๒ เมย.๖๐