การพระศาสนา

ผมยกเอาเหตุแห่งทุกข์ของมนุษย์เราทั้งหลาย
ที่พระพุทธองค์ทรงค้นหาแล้วพบ พร้อมกับทรงอธิบายให้จนมีการสืนสานผ่านพ่อแม่ครูบาอาจารย์
กระทั่งเมื่อวิสาขบูชา ๒๔๗๕
พระมหาเงื่อมแห่งเมืองไชยา ผู้บวชเรียนจนเจอเพชรในพระไตรปิฎกแล้วจัดตั้งสวนโมกข์พร้อมกับขอเป็นทาสรับใช้พระพุทธองค์สืบมา ถึงวันนี้ ๘๕ ปีแล้ว

โดยก่อนหน้านั้น ท่านเกิดในวันที่ ๒๗ พค.๒๔๔๙ 
ปลายเดือนนี้จะครบ ๑๑๑ ปีพอดี

พวกเรา ๓ ฝ่ายได้ร่วมกันเป็นหลักจัดงานนี้กันขึ้นเพื่อแสวงหาคำตอบเพื่อพุทธธรรมจะได้รับใช้สังคมได้ให้ยิ่ง ๆ ขึ้นใน ๔ ประเด็นเน้น คือ ชีวิตจิตใจ / สังคม-การเมือง / เศรษฐกิจ-การพัฒนาที่ยังยื่น และ งานและการสานปณิธานท่านอาจารย์

ท่านเจ้าคุณสุธีรัตบัณฑิต ผอ.สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มจร.บอกว่าวันที่ ๒๔ - ๒๕ ที่สวนโมกข์กรุงเทพ ช่วงเช้าจะมีปาฐกถาสำคัญของผู้นำชาวพุทธจากหลายมุมโลกมาเสนอประเด็นที่เนื่องกับเรื่องเหล่านี้ ตกบ่ายก็แบ่งเป็นกลุ่มย่อยนำเสนองานวิจัยที่ค้นพบ ขอเชิญมาร่วมรับฟังเรียนรู้ ไม่มีค่าลงทะเบียนใด ๆ ทั้งสิ้น แถมพระเลี้ยงอาหารญาติโยมด้วย

อ.สมทรง รักษาการอธิการบดี มรภ.สฎ.ก็บอกว่าที่ไชยาจะมีหลายกิจกรรม ตั้งแต่จัดการตักบาตรที่หน้าบ้านเกิด จัดฐานการเรียนรู้ต่าง ๆ เช้าวันที่ ๒๖ มีปาฐกภาและเสวนา แล้วตามรอยท่านอาจารย์ ตกเย็นหลังทำวัตรกันที่ลานหินโค้งแล้ว จะมีเพลงภาวนาชุดพิเศษ ที่เอก ธเนศ และ คณะนักร้องชั้นนำกับทีม The Voice จะเชิญเพลงธรรมสำคัญมาร้องนำภาวนา และรายงานท่านอาจารย์กันด้วยครับ

จากนั้นผมก็จะเชิญ ชวนผู้คนที่มาร่วมล้ออายุได้ร่วมกันรายงานสิ่งต่าง ๆ ต่อท่านอาจารย์ จนวันที่ ๒๗ ก็จะร่วมล้ออายุกันทั้งวันขอรับ

งานนี้ที่สวนโมกข์ กทม.ก็จัดคู่เคียงกับที่ไชยาสำหรับท่านที่ลงไปไม่ได้

จากนั้น สำหรับผู้ที่ตั้งใจะร่วมภาวนาต่อ ๒๘-๓๐ เชิญได้ที่สวนโมกข์นานาชาติ หรือไม่ก็ ๓๑ พค. - ๒ มิย. ที่ทีปภาวัน เกาะสมุยครับผม

ทั้งนี้งานนี้ เราเชิญนักแปลงานท่านอาจารย์จากหลายมุมโลกมาหารือกันด้วยนะครับว่าจะสานปณิธานงานท่านอาจารย์กันอย่างไรต่อ...ขอรับ.

๑๑ พค.๖๐