การพระศาสนา

ท่านอาจารย์พุทธทาสปรารภเสมอถึงบุญคุณของอินเดียที่มีต่อไทยและชาวพุทธเรา
ผมพบปะกับชาวอินเดียที่ไร ก็พยายามระลึกถึงข้อนี้ไว้เสมอ
แม้จะโดยคนอินเดียต้มอยู่เสมอมาไม่ว่าจะระดับและชั้นไหน ๆ

เมื่อวานนี้ ที่หน้า รร.พุทธธรรม วัดชลประทานฯ
ผมเห็นหลังคาอาคารหนึ่ง ทรงอินเดียโบราณ
ก็เลยเดินเข้าไปวนดู ตรงสุดปลายลานหินโค้งใหม่ ที่ต่อกับลานหินโค้งเดิม

...โอ้โฮ !!! อะไรกันนี่ ?

เป็นอาคารคอนกรีตก่ออิฐถือปูนที่ประณีตยิ่ง
หนึ่งคือรูปทรงอย่างกะอินเดียโบราณชัด ๆ
สองปูนปั้นประดับประณีตงดงามอะไรอย่างนั้น
เฉพาะเสาโตรณะแห่งสาญจีที่จำลองมาได้อย่างวิเศษ
ทั้งหมู่ช้างพญาฉัททันต์ และนางสาละปัญชิกาประจำยาม
รวมทั้งธรรมจักร กับ ตรีรัตนะคู่ บนยอดสุด
ตามเสาทั้งสอง ก็เต็มไปด้วยภาพ
ที่พุทธประวัติตั้งแต่ทรงรับอาราธนามาจุติแล้วประสูติ จนตรัสรูป แล้วโปรดชฏิล ๓ พี่น้อง
กับภาพมหากปิชาดกก็มีด้วย

โดยด้านริมถนน ต่อจากด้านที่มีภาพสถูปใหญ่แห่งอมราวดี และ สองเสาอโศกแห่งสารนาถ และ (น่าจะ)ไพสาลี นั้น เป็นภาพบางมหาสถาน ตั้งแต่ประสูติ ออกบวช ตรัสรู้ โปรดพุทธมารดา ปราบช้างนาฬาคีรี และปรินิพพาน
ส่วนด้านลานหินโค้ง ที่มีซุ้มคูหาสถูปประดิษฐานพระปางปฐมเทศนาแบบสารนาถนั้น ก็เป็นอีกภาพชุด จากประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา ปรินิพพานเช่นกัน

กราบท่านเจ้าคุณมหาสง่าว่า

ใช้เป็นอะไรขอรับ ?
อาคารอินเดียศึกษา
สำหรับพระศึกษาค้นคว้า ปฏิบัติ สวดมนต์ภาวนา

ช่างจากที่ไหนหรือครับ ?
เป็นอาจารย์ดุษฎีบัณฑิตอินเดีย ที่ราชมงคล

ผมจะขอโอกาสพาคณะมาเรียนรู้นะขอรับ
เจริญพร

๒๑ สค.๖๐