การพระศาสนา

วันนี้ที่สวนโมกข์มีกิจกรรมริเริ่มใหม่หมาดในชื่อตามข้างบน เกิดจากวงหารือเมื่อไม่นานมานี้ที่คุณธิตินันท์ วัธนเวคิน นำคณะ KKP มามอบเงินสนับสนุนสารพัดแก่หอฯ ที่ทำมาตั้งแต่แรกเริ่มสร้างและต่อเนื่องเป็นประจทุกปีมา โดยปีนี้พวกเราได้โอกาสตอบแทนด้วยการตามไปร่วมด้วยช่วยกันในงานใส่บาตรประจำเดือนที่ตึก สนญ.ธนาคารเกียรตินาคิน ที่อโศก และ สนง.ภัทร ที่รัชดาภิเษก แล้วคิดว่าน่าลองทำกิจกรรมนำพนักงานภัทรมาเรียนรู้และลองภาวนากันดูสักครึ่งวัน เผื่อว่าดีจะได้ทำอีก ให้กับองค์กรอื่น ๆ ที่ร่วมด้วยช่วยกันมาในทำนองเดียวกัน รวมทั้งผู้สนใจทั่วไป

งานนี้เริ่มด้วยการให้ถอดรองเท้า วางสัมภาระ แล้วประคองแก้วแห่งสติไปนั่งกลางพื้น โดยมีพี่บรรยงเกริ่นนำด้วยประเด็นสำคัญว่าด้วยทุนนิยมกับธรรมนิยม ที่กำลังท้าทายการประสานกันเพื่อสังคมและชีวิต พร้อมทั้งบอกว่า สำหรับตนเองนั้น สมาทาน อิทัปปจัยตา อิทธิบาท และ พรหมวิหาร ซึ่งมีอานิสงส์สูง

จากนั้น ผมจึงชวนเดินเพลินธรรมนำชม จากภาพมารวิชัยและเสา ๕ ว่าด้วย "พละ ๕" ที่พระพุทธเจ้าท่านช่างออกแบบ application วิเศษให้ไว้เป็นคู่ ๆ คือ ศรัทธา-ปัญญา วิริยะ-สมาธิ มี สติ เป็นผู้กำกับ แล้วพาผ่านนกฮูกเข้าโถงไปฉุกคิดกับมะพร้าวนาฬิเกร์ ที่ "ต้นเดียวโนเน กลางทะเลขี้ผึ้ง ฝนตกไม่ต้อง ฟ้าร้องไม่ถึง กลางทะเลขี้ผึ้ง ถึงได้แต่ผู้ พ้นบุญเอย"

ที่ภาพพุทธประวัติชุดแรกของโลก (ที่ยังเหลืออยู่) ผมยกเพียง ๓ ประเด็นสำคัญนอกจากภาพที่ไร้ตัวไร้ตนของพระพุทธองค์แล้ว มีเรื่องเป้าหมายชีวิต ๒ แบบ จักรพรรดิหรือศาสดา ? ทฤษฎีความสุข ๒ อย่าง เสพสุข กับ ทนทุกข์ ? และ จะเป็นคนแบบไหนใน ๔ แบบของบัว ?

พอขึ้นบันได ผมก็ชวนต่อเรื่องหลังพระพุทธองค์ทรงตรัสรู้แล้ว first launch ธรรมะ ให้ปัญจวัคคีย์ ที่เริ่มด้วยการปรับทัศนะว่าด้วย ทางสายกลาง มรรคมีองค์ ๘ อริยสัจสี่ และ สัทธรรม ๓ ผ่านภาพอัตตภาพนาวา ก่อนจะไปจบที่ภาพอิทัปปัจจยตาปฏิจจสมุปบาทอย่างย่นย่อยิ่ง

ก่อนที่จะส่งทุกคนไปชิมน้ำพิเศษ แล้วเข้าไปทบทวนเรื่องการภาวนากับชีวิตโดยมีครูดลมาช่วย แล้วก็พบกับนิ้วกลมในห้องนิพพานชิมลองโดยมีพี่บรรยงกับผมร่วมผสมโรงเป็นฟินาเล่ แบบสบาย ๆ

งานนี้ เราของ KKP บันทึกเพื่อเผยแพร่และขยายผล ใครสนใจติดตามต่อได้นะครับ หรือหากต้องการให้จัดอีก กรุณาบอกมานะครับ

๒ มิย.๕๙