20160102_3 ไม่มีวันหมดหวังการให้ศีลธรรมกลับมา

Details: Written by Super User; Category: งานศาสนา; Published: 30 March 2016; Hits: 1953

ศีล

ไม่มีวันหมดหวัง การให้ศีลธรรมกลับมา ตอนนี้เริ่มลงท้องถนนแล้วครับ เมื่อคืนวันที่ ๓๑ ที่น้อง ๆ จัดเสวนาหัวข้อ "สีลธรรมกลับมา โลกาสงบเย็น" แล้วถูกถามว่ายังไง ? มีหวังไหม ? ท่านอาจารย์พุทธทาสแสดงธรรมไว้ถึงขนาดว่า "ขอวิงวอนขอร้อง ก่อนที่โลกาจะวินาศ" ซึ่งถึงตอนนี้ชี้ชัดว่าวินาศแน่หากไม่ยุดยั้งกันไว้บ้าง ไม่ต้องบอกรายละเอียดอะไร รู้ ๆ อยู่แก่ใจทั้งในตัวเอง ที่บ้าน ย่านถนนรนแคม องค์กรที่ทำงาน ประเทศชาติบ้านเมือง โลกทั้งลูก จนถึงจักรวาลทั้งปวง

อะไร ขนาดไหน ? ศีลธรรม !!! เมื่อผมชวนเพื่อนของน้องติดสติ๊กเกอร์นี้ เธอบอกว่า "ไม่กล้าติด หนูยังไม่มีศีลธรรมพอ !!! แต่ถ้าให้หนูร่วมบุญทำสติ๊กเกอร์ไปแจกติดรถคันอื่น เท่าไหร่ได้หมด !!!" ผมจึงขออนุญาติไขความหมายของ "ศีลธรรม" ที่แสลงใจหลายคน เพราะเราใช้กันมาจนพลาดคลาดเคลื่อนไปหมด

ศีลธรรมคือระบบความคิดเพื่อสร้างความเป็นปกติสุข คืนนั้นที่สวนพุทธธรรม ผมไขความคิดส่วนตัวไว้อย่างนี้ ศีลนั้นคือข้อพึงละเว้นเพื่อรักษาความปกติสุขมิให้ตกต่ำ ธรรมก็คือข้อพึงกระทำเพื่อเพิ่มพูนความปกติสุขให้ยิ่ง ๆ ขึ้นจนเหนือสุข ศีลและธรรมมีได้หลากหลายประการและกลุ่มหมวด เช่นในพระพุทธศาสนา ก็มี ศีล ๕ / ๘ / ๑๐ / ๒๒๗ ฯลฯ ให้ค่อย ๆ เอามาขยับยกระดับความไม่ตกต่ำ และไม่จำเป็นจะต้องตามนี้ แต่ละคนสามารออกแบบเพื่อชีวิตตนเอาเองได้แบบ tailor made ข้อนั้นข้อนี้ อย่างนั้นอย่างนี้ที่เหมาะกันตน จนแม้กระทั่ง มิจฉาแชร์ มิจฉาท่องเน็ต เวรมนี สิกขาปทัง สมาทิยามิ ก็ควรที่จะถือกันบ้างแล้ว ไม่งั้นตกต่ำถึงตายได้ไม่ยาก ส่วนธรรมนั้นก็เยอะแยะไม่ว่าจะเป็นของศาสดาใด ในศาสนาไหน ดังที่พระพุทธองค์ก็ทรงออกมาให้ไว้ตั้ง ๘๔,๐๐๐ แอพพลิเคชั่น แต่เราก็ apply เอาได้ ผมเองนั้นก็วางศีลและธรรมสำหรับตนเองไว้เป็นลำดับขั้น เฝ้าระวังดูแลและพัฒนามาเรื่อย ๆ อย่าให้ตกต่ำ และวางไว้ให้ก้าวหน้าอยู่เสมอ ศีลและธรรมนี้แท้จริงมีทั้งในระดับเฉพาะบุคคล จนถึงครอบครัว หมู่คณะ องค์กร ท้องถิ่น ประเทศชาติ ประชาคม จนสากลโลก และจักรวาล ดังที่ต้องวางเป็นกติกา ระเบียบ ข้อตกลง กฎหมาย รัฐธรรมนูญ กระทั่งกติกาสากลสารพัด หรือแม้ขนบธรรมเนียมประเพณีนิยมต่าง ๆ หากไม่เป็นธรรมหรือเป็นที่ตกลงหรือมีความบิดเบี้ยว ด้วยข้อคิดความเห็นที่มักอิงประโยชน์ตนหรือกลุ่มคณะพรรคพวก ประเทศ ก็มักเพี้ยนได้เสมอ ๆ ดังที่เกิดอยู่โดยทั่วไปไม่ว่าจะที่ไหน ๆ ไม่ใช่เฉพาะที่บ้านเราเท่านั้นหรอกครับ แล้วความเป็นปกติสุขเป็นอย่างไรเล่า ? สำหรับผมที่เสนอในวงเมื่อวันสิ้นปีนั้น ใช้กรอบง่าย ๆ ๓ แนว ปกติสุขที่เขาตกลงและยึดถือ ปกติสุขของตัวเอง แล้วก็ปกติสุขแท้ ๆ ตามธรรมชาติในแนวทางพระพุทธศาสนา ที่พระพุทธองค์ทรงแสวหาและตรัสรู้แล้วสอนไว้ คือ ปรมัตถสุข ซึ่งเท่าที่ตรองมาตลอด ของที่เขาตกลงยอมรับและนึดถือกันนั้น ผมว่า พวกเราชาวพุทธ ศิษย์พระพุทธเจ้า ชาวสวนโมกข์ น่าจะอยู่ในแนวที่เข้าไปหาปรมัตถสุขมากกว่า ขอบคุณนะครับ คุณ Jirayu Joy ที่ช่วยส่งศีลธรรมสู่ท้องถนน ตามคำร้องขอของท่านอาจารย์พุทธทาสภิกขุ