บัญชาชีวิต

คนหนึ่งชื่อ "ระพี สาคริก" กับภริยา "กัลยา สาคริก"
ที่ใคร ๆ ก็เรียกอย่างนั้น
และทั้ง ๒ ท่านก็ถนัดแทนตนเช่นเดียวกัน

ผู้ว่าเอนกกับภริยา ก็เป็นอกีคู่หนึ่ง

ที่วัดมกุฏฯ วันนี้
ท่านายกอานันท์ ปันยารชุน มาเป็นประธาน
ผมเองนั้นเลือกนั่งข้างนอกไกลออกไป
จนเสร็จพิธี อยากจะเข้าไปให้ใกล้เพื่อได้กราบท่านสักครั้ง
พร้อมกับทักทายและขอร่วมบุญกับบุตร-ธิดาทั้ง ๓ 
จึงค่อย ๆ เข้าไปเมื่อผู้คนเริ่มน้อยลง
พบทั้งต้อ ต่อ โอ๋ รวมทั้งคุณนาถ
"พี่หมอเต้ยมาด้วย" 
ทั้ง ๓ คนเรียกกันมาพร้อมหน้าพร้อมกับขอถ่ายรูปกับคุณพ่อ

อันที่จริงผมนั้นสำรวมเสมอ ว่าเรานี้คือใคร
แต่ท่านผู้ว่าเอนก แม่ต่อม กับทั้ง ๓ คนนี้
แสดงเสมอมาเสมือนเป็นญาติสนิทในครอบครัว
ซึ่งผมก็สังเกตุเห็นว่า ทุกคนทำอย่างจริงใจ
และกับแทบทุกคนที่ผ่านเข้ามาถึงบ้าน 
แม้กระทั่งในงาน

ด้วยเหตุนี้แหละที่ท่านชนะใจคนนครที่ใคร ๆ ก็ชนะได้ยาก

จากป้าย "เมืองนครไม่ต้อนรับผู้ว่าที่มีมลทิน" เมื่อแรกรับ

ครั้นท่านกลับกรุงเมื่อครบวาระ ๔ ปี
ไปเป็นรองอธิบดีกรมการปกครอง

คนนครก็ขึ้นป้ายอีกว่า

"เราอยากได้ผู้ว่าอย่างนายเอนกนี้"
และ "ย้ายผู้ว่าฯของเรา ไปเป็นแค่รองอธิบดีได้ไง ?"

จากนั้นไม่นาน
ก็ขยับเป็นอธิบดี และ ปลัดกระทรวง
ก่อนที่จะหวนมาอีกครั้งในสมัยรัฐบาลอานันท์
ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงฯ

ต้อเรียกภริยามารายงานตัวว่า
"จำได้ไหม ตอนที่เธอจะคลอดลูกคนแรก
พี่หมอนี่แหละที่มาช่วยดูท้อง 
แล้วบอกให้ไปคลอดได้แล้ว"

ทำให้ผมนึกถึงครั้งหนึ่งที่คุณพ่อโทรมาจากกระทรวงว่า
"หมอ ต่อกำลังบวช และอยากจะอยู่ที่สวนโมกข์ พอจะเป็นไปได้ไหม"

ทำไมจะไม่ได้ละครับ
ผมจัดให้อย่างสมควรเลยครับ
แถมตามไปเป็นลูกศิษย์ถวายด้วยครับ

น้อง ๆ ยังให้ความรู้สึกผมเหมือนเดิมเลยครับ
คุณพ่อและแม่ต่อม

ที่งานผมไม่ได้จังหวะกราบ 
เพราะญาติมิตรมากมายจนเกรงใจ

ขอกราบออนไลน์นะครับผม

๒๐ ธค.๖๐ ๒๒๑๕ น.
หลังกลับจากวัดมกุฏกษัตริยาราม