logo_new.jpg

Be Blamed of Selfishness
เมื่อถูกหาว่าเป็นพระเห็นแก่ตัว
(bunchar.com บัญชาชีวิต 20160612)

วันหนึ่ง หลังฉันภัตตาหารที่โรงฉันเสร็จตอน ๙ โมงกว่า แล้วกลับกุฏิมาทำกิจความสะอาดอาณาบริเวณ สบง จีวร อังสะ และ สรงน้ำแล้วนั่งทำบันทึก เขียนรายงาน อ่านหนังสือ อยู่บนกุฏิ ก็มี ๒ หนุ่มสาวเข้ามาเอยถามที่หน้ากุฏิว่าจะขอขึ้นมาสนทนาหารือด้วยได้ไหม ผมบอกว่า “อาตมาพระบวชใหม่ เพิ่งมาศึกษา ไม่น่าจะตอบข้อธรรมะอะไรได้เท่าไหร่ เจริญพรโยมไปที่กุฏิท่านอาจารย์ด้านหน้า หรือไม่ก็พบท่านอาจาร์ไสวที่โรงปั้นจะเหมาะกว่า” แต่เขาทั้งสองกลับว่า “อยากขอคุยกับท่าน” ผมก็เลยขัดอะไรไม่ได้ ได้แต่ “เจริญพร” ตามที่จดจำมาว่าพระจะต้องเป็นผู้เลี้ยงง่ายและสำนึกในบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนที่ญาติโยมเลี้ยงด้วยการเอื้อเพื้อคืนด้วยการให้ธรรมทำนองนี้


จำบทสนทนาอะไรได้ไม่มาก ส่วนใหญ่ก็ดูเหมือนจะถามว่ามาบวชทำไม ได้อะไร ที่นี่เป็นอย่างไร ส่วนสนทนาข้อธรรมอะไรกันบ้างนั้นจำไม่ได้ จำได้แต่ตอนก่อนที่ทั้งสองจะลาจาก ด้วยคำเตือนเชิงต่อว่าที่ทำเอาเราเองก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าไหงถึงเป็นเช่นนี้ “อย่างนี้ท่านก็เห็นแก่ตัว ปลีกมาอยู่สบายอย่างนี้ แน่จริงท่านต้องไปอยู่ที่กรุงเทพอย่างกับพวกเราที่กำลังทุกข์นัก”


“ขอเวลาให้อาตมาฝึกฝนสักหน่อยก่อนได้ไหม หรือหากโยมทุกข์นักก็ปลีกมาอยู่อย่างอาตมาก็ได้” ในขณะที่ในใจนั้นคิดต่อเอาว่า ‘จะไม่ดีกว่ามาว่าอาตมาอย่างนี้หรือ ? ก็บอกแล้วว่าเพิ่งบวชใหม่ กำลังมาค้นหาและฝึกฝน’ เพียงแต่เกรงใจ ไม่ได้เปล่งออกมาเป็นเสียง
จำได้อีกอย่างว่า แค่บวชเดี๋ยวเดียว ก็ถูกบุกกุฏิมาต่อว่า ว่า “เห็นแก่ตัว” ในคราบผ้าเหลืองเข้าให้แล้ว

๑๒ มิย.๕๙

ภาพ เขาพุทธทองเมื่อขึ้นด้วยการเดินวนประทักษิณจากกุฏิหงวน ผ่านโรงธรรมฝรั่ง (รูปที่ ๔)

 

 

กุฏหง้วน (๕)

 

บริเวณที่ขุดดินค้า ท่านอาจารย์เคยคิดจะทำถ้ำอาชันตาจำลอง (๘)

 

  

โรงเรียนหิน (๙)

 

กุฏิด้านโรงหนัง (๑๐) แผงภาพปูนปั้นพุทธประวัติเพิ่งนำมาตั้งใหม่ กับรถพระอาคันตุกะที่มาพักที่กุฏิพระ บนเขาพุทธทอง (๑๑) เมื่อวันที่ ๒๗ พค.๕๙

 

Joomla templates by a4joomla
rtp slot https://www.sidiap.org/rtp-live-slot//