เพื่อแผ่นดินเกิด
20230911_1 #ผ้าขาวม้า ที่ติดพันมาแต่ #กุหลาบเปอร์เซีย เมื่อคืน On #PakaomaThai and NewThaiGovernment
- Details
- Written by Super User
- Category: เพื่อแผ่นดินเกิด
- Published: 14 September 2023
- Hits: 320
#ผ้าขาวม้า ที่ติดพันมาแต่ #กุหลาบเปอร์เซีย เมื่อคืน
On #PakaomaThai and NewThaiGovernment
(bunchar.com เพื่อแผ่นดินเกิด 20230911_1)
อ่าน #กุหลาบเปอร์เซียในแดนสยาม ที่คุณ Parnbua Boonparn ส่งมาให้
เป็นหนังสือรางวัลที่มูลนิธิสมเด็จพระเทพฯ จัดพิมพ์เผยแพร่
ท่าน อ.กุสุมา สรุปเสนอว่า #ผ้าขาวม้า บ้านเรานั้น
เป็นหนึ่งในกุหลาบเปอร์เซียที่เบ่งบานงดงามในสยาม
มาจาก #ผ้าเคียนเอวของชาวเปอร์เซีย สมัยราชวงศ์ศะฟะวีย์ (ศตวรรษที่ ๑๖ - ๑๘) และราชวงศ์กาญาร (ศตวรรษที่ ๑๘ - ๒๐)
เขาเรียกว่า #ผ้ากะมัรบันด์ - #kamarband หรือว่า #ผ้ากะมัรสำหรับพัน (band - พัน)
เป็นเครื่องแสดงสถานะ ขุนนาจอาจใช้ผ้าทอควบแล่งทอง เศรษฐีควบแล่งเงิน
ลดหลั่นลงมาใช้ผ้าส่าน ผ้ามัสลิน ผ้าฝ้าย
โดยพันทบให้เป็นที่เก็บเอกสาร ปากกา เงิน (คล้าย ๆ ชายพกไหม ?)
หากชาวบ้านทั่วไป ตลอดจนคนเฝ้าประตู มักเหน็บมีดสั้น
กับใช้ประโยชน์สารพัดประจำวันได้ด้วย
หากอย่างวิจิตร จะใช้ผ้าสองผืน ชั้นในกว้างยาวกว่า วิจิตรกว่า
ชั้นนอกแคบและสั้นกว่า พันรอบเอวให้เหลื่อมกันเพื่อเห็นได้ทั้งสองผืน
โดยลงท้ายว่า
" ... คำว่า #ขาวม้า ในภาษาไทย คงรับมาจากคำ #kamar ในภาษาเปอร์เซีย
อาจรับมาโดยตรงหรือผ่านทางอินเดียหรือชวามลายูก็ได้ ... "
พอดีเพิ่งซื้อหนังสือชุด #ผ้าขาวม้าไทย
ที่ทางการเพิ่งขายให้ หลังจากถามหามาหลายปี
รัฐบาลนี้ทำมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๙ กับ #ประชารัฐสามัคคี ที่ติดตามตลอดมา
ก็เลยเอามาพลิกอ่านซะทั้ง ๔ เล่ม มีข้อสังเกตุตามทำหมายเหตุไว้แล้ว
แต่ที่น่าคิดต่อก็ประมาณนี้ ...
๑) เรื่องที่มา ในนี้สรุปว่าน่าจะมาจากอิหร่านเช่นกัน แต่ขยายแปลก ๆ
ว่า " ... เป็นคำที่ #เพี้ยนมาจากภาษาอิหร่านที่ใช้ในสเปน
เนื่องจากในอดีตอิหร่านและสเปนมีการติดต่อกัน
ทำให้เกิดการถ่ายเททางวัฒนธรรมและภาษาซึ่งกันและกัน
โดยในสเปนใช้ผ้าคามาร์ที่ว่านี้ในการคลุมบ่าหรือคาดเอว ... "
ซึ่งแตกต่างมากจากงานของท่าน อ.กุสุมา
ที่ว่ามีเปอร์เซีย-อิหร่านมาถึงไทยมากมายในสมัยอยุธยา
และว่าเพียงอาจรับผ่านทางอินเดียหรือชวามลายู ไม่มีสเปนเลย
๒) แต่ที่น่าสนใจไม่น้อย คือในนี้ ระบุถึงอีก ๓ ที่มา ว่าอาจจะมาจาก #ญี่ปุ่น
ที่เรียกว่า #หักขะม้า - #ผ้าก่าม่า หรือ #กัมพูชา เรียก #ผ้ากรรมา
รวมทั้งไทยเราเอง ที่ว่าว่าคือ #ผ้าขอขมา !!!
ทั้งนั้นนี้อันที่จริงอาจเป็นที่มาร่วมหรือไม่ก็แลกเปลี่ยนไปมา
อย่างเช่นที่จีนแต้จิ๋ว ก็นิยมใช้ บอกว่าจีนแต้จิ๋วที่มาสยามเอากลับไปใช้
เช่นกันกับที่ญี่ปุ่นก็เอาไปจากไทยเราด้วย
ผมว่างานนี้ หากจะเอากันจริง ควรต้องวิจัยกันใหม่ไหม ให้ได้เรื่องกว่านี้
๓) สำหรับ #งานผ้าขาวม้า ที่ท่านทำกันมา ๗ ปีจนหมดรัฐบาลนี้แล้ว
และเข้าใจว่า #ประชารัฐสามัคคีก็น่าจะจบด้วยไหม ?
โดยเหมือนมีอะไรใหม่ ๆ กำลังมาแรง
เช่น หนึ่งครอบครัว หนึ่ง soft power
ผมมีบางข้อสังเกตว่า เหมือนงานไปทุ่มเทกับการประกวดออกแบบต่าง ๆ
ซึ่งก็มีความหมายไม่น้อย
แต่ #งานความรู้พื้นฐานเรื่องผ้าขาวม้าอาจจะน้อยไปหน่อยไหม ?
แถม #ที่สำรวจผ้าขาวม้าไทยก็ยังไม่ลึกและกว้างเท่าไหร่ไหม ?
อ่านบทที่ว่าด้วย #ผ้าขาวม้าอาเซียน ... #เลยเกินไปไหม ?
ท้ายสุด ในฐานะคนนคร #ในนครไม่มีคนขับเรื่องผ้าขาวม้าเลยไหม ?
ท่านที่สนใจจริง ลองอ่านบทสรุการดำเนินการที่เขาพิมพ์ไว้ดูได้ครับผม
หรือไม่ก็ตามไปขออ่านได้ที่ The Library At Nakorn ครับ
หยุดอ่านหนังสือสักพักใหญ่ได้เลยแล้วครับ
สองสามวันมานี้ซัดไปหลายเล่มเลย
๑๑ กันยา ๖๖ ๑๐๒๐ น.
บ้านบวรรัตน์ท่าวังเมืองนคร