logo_new.jpg

นี้คือที่ผมอัญเชิญมาเรื่องการภาวนากับแผ่นดิน...เมื่อวานนี้
This to Start the Meditation on Earth 
(bunchar.com เพื่อแผ่นดินเกิด 20171001_1)

หลังสวดมนต์ทำวัตรเช้า
เพื่อเริ่มเปิดตลาดนัดบุญ เสาร์ ๕ เมื่อวานนี้
ซึ่งน้อง ๆ กำหนดเรียกว่า "ภาวนากับแผ่นดิน"
เพื่อเริ่มงานการส่งพ่อที่จะสานปณิธานว่า
"พวกเราคือกำลังของแผ่นดิน...ภูมิ-พละ" นั้น

ผมเริ่มด้วยการชวนระลึกย้อนไปถึง ๒๕๖๐ ปีที่แล้ว
ที่พุทธสาวกทั้งหลายพากันเศร้าโศกจากการดับขันธปรินิพพาน
ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เช่นเดียวกับ ณ ขณะนี้ ที่พวกเรา พสกนิกรไทยทั้งปวง
กำลังเกิดอาการเดียวกัน ณ ๓๕๐ วันที่ทรงสวรรคต
อีกไม่ถึง ๑๕ ซันจะครบปี
และอีกเพียง ๒๕ วัน พระสรีระร่างของพระองค์ก็จะสิ้นสูญ

สิ่งเดียวที่ "พ่อ (จะ) ยังอยู่" สมนาม "ภูมิพล"
ก็คือพวกเรานี้เองที่จะพึงลุกกันขึ้นมาเป็นกำลังของแผ่นดินกัน

แล้วผมก็อัญเชิญพระราชนิพนธ์พระมหาชนก
ตอนที่สำคัญที่สุดตอนหนึ่งมาอ่าน อย่างนี้

...เมื่อจะทดลองพระมหาสัตว์ (เทพธิดาชื่อมณีเมขลา) จึงกล่าวคาถาแรกว่า : 
นี้ใคร เมื่อแลไม่เห็นฝั่งก็อุตสาหะพยายามว่ายอยู่ท่ามกลางมหาสมุทร 
ท่านรู็อำนาจประโยชน์อะไร จึงพยายามว่ายอยู่อย่างนี้นักหนา

ครั้งนั้น พระมหาสัตว์ทรงดำริว่า : "เราว่ายข้ามมหาสมุทรมาได้เจ็ดวันเช้าวันนี้ ไม่เคยเห็นเพื่อนสองของเราเลย นี่ใครหนอ มาพูดกะเรา" เมื่อแลไปในอากาศก็ทอดพระเนตรเห็นนางมณีเมขลา จึงตรัสคาถาที่สองว่า : ดูก่อน เทวดา เราใตร่ตรองเห็นปฏิปทาแห่งโลก และอานิสงส์แห่งความเพรียร เพราะฉะนั้น ถึงมองไม่เห็นฝั่ง เราก็ต้องพยายามว่ายอยู่ท่ามกลางมหาสมุทร

นางมณีเมขลาปรารถนาจะฟังธรรมกถาของพระมหาสัตว์ จึงกล่าวคาถาอีกว่า : ฝั่งมหาสมุทรลึกจนประมาณไม่ได้ ย่อมไม่ปรากฏแก่ท่าน ความพยายามอย่างลูกผู้ชายของท่านก็เปล่าประโยชน์ ท่านไม่ทันถึงฝั่งก็จักตาย

ครั้งนั้น พระมหาสัตว์ตรัสกะนางมณีเมขลาว่า : "ท่านพูดอะไรอย่างนั้น เราทำความพยายาม แม้ตายก็จักพ้นครหา" ตรัสฉะนี้แล้ว จึงกล่าวคาถาว่า : บุคคลเมื่อกระทำความเพียร แม้จะตายก็ชื่อว่า ไม่เป็นหนี้ในระหว่างหมู่ญาติ เทวดา และบิดามารดา อนึ่ง บุคคลเมื่อทำกิจอย่างลูกผู้ชาย ย่อมไม่เดือดร้อนในภายหลัง

ลำดับนั้น เทวดากล่าวคาถากะพระมหาสัตว์ว่า : การงานอันใด ยังไม่ถึงที่สุดด้วยความพยายาม การงานอันนั้นก็ไร้ผล มีความลำบากเกิดขึ้น การทำความพยายามในฐษนะอันไม่สมควรใด จนความตายปรากฏขึ้น ความพยายามในฐานะอันไม่สมควรนั้น จะมีประโยชน์อะไร

เมื่อนางมณีเมขลากล่าวอย่างนี้แล้ว พระมหาสัตว์เมื่อจะทำนางมณีเมขลาให้จำนนต่อถ่อยคำ จึงได้ตรัสคาถาต่อไปว่า : ดูก่อนเทวดา ผู้ใดรู้แจ้งว่าการงานที่ทำจะไม่ลุล่วงไปได้จริง ๆ ชื่อว่าไม่รักษาชีวิตของตนถ้าผู้นั้นละความเพียรในฐานะเช่นนั้นเสีย ก็จะพึงรู้ผลแห่งความเกียจคร้าน ดูก่อนเทวดา คนบางพวกในโลกนี้เห็นผลแห่งความประสงค์ของตน จึงประกอบการงานทั้งหลาย การงานเหล่านั้นจะสำเร็จหรือไม่ก็ตาม ดูก่อนเทวดา ท่านก็เห็นผลแห่งกรรมประจักษ์แก่ตนแล้วมิใช่หรือ คนอื่น ๆ จมในมหาสมุทรหมด เราคนเดียวยังว่ายข้ามอยู่ และได้เห็นท่านมาสถิตอยู่ใกล้ ๆ เรา เรานั้นจักพยายามตามสติกำลัง จักทำความเพียรที่บุรุษควรทำ ไปให้ถึงฝั่งแห่งมหาสมุทร

เทวดาได้สดับพระวาจาอันมั่นคงของพระมหาสัตว์นั้น เมื่อจะสรรเสริญพระมหาสัตว์ จึงกล่าวคาถาว่า : ท่านใดถึงพร้อมด้วยความพยายามโดยธรรม ไม่จมลงในห้วงมหรรณพซึ่งประมาณมิได้ เห็นปานนี้ ด้วยกิจคือความเพียรของบุรุษ ท่านนั้นจงไปในสถานที่ที่ใจของท่านยินดีนั้นเถิด

ก็แล ครั้นกล่าวอย่างนี้แล้ว นางมณีเมขลาได้ถามว่า : "ข้าแต่ท่านบัณฑิตผู้มีความบากบั่นมาก ข้าพเจ้าจักนำท่านไปที่ไหน" เมื่อพระมหาสัตว์ตรัสว่า : "มิถิลานคร" นางจึงอุ้มพระมหาสัตว์ขึ้นดุจคนยกกำดอกไม้ ใช้แขนทั้งสองประคองให้นอนแนบทรวงพาเหาะไปในอากาศ เหมือนคนอุ้มลูกรักฉะนั้น พร้อมกันนั้น เทวาดาก็ได้กล่าวอดิเรกคาถาว่า : ข้าแต่บัณฑิต วาจาอันมีปาฏิหาริย์มิบังควรหายไปในอากาศ ท่านต้องให้สาธุชนได้รับพรแห่งโพธิญาณจากโอษฐ์ของท่าน ถึงกาลอันสมควร ท่านจงตั้งสถาบันการศึกษาให้ชื่อว่า โพธิยาลัยมหาวิชชาลัย ในกาลนั้นท่านจึงจะสำเร็จกิจที่แท้. คำว่า โพธิยาลัย หมายความ ที่อาศัยแห่งแสงสว่าง คำว่า มหาวิชชาลย หมายความ ที่อาศัยแห่งความรู็อันยิ่งใหญ่

จากนั้นแต่ละท่านก็แยกย้ายกันไปประจำตำแหน่งในตลาด โดยผมเองนั้นก็ดำเนินหน้าที่ "เพลินธรรมนำชมอาสา" ร่วมกับคุณอ้อม จนสมควรแก่เวลา ในฐานะอีกหนึ่งใน "โพธิยาลัยมหาวิชชาลัย" ที่พระมหาสัตว์ รัชกาลที่ ๙ ทรงมีพระบรมราชานุญาตให้ตั้งขึ้น ณ ที่นี้ ในทุกวันนี้.

๑ ตค.๖๐

ขอบคุณภาพจากคุณรัตน์ อ้อมและแอนครับผม

Joomla templates by a4joomla
rtp slot https://www.sidiap.org/rtp-live-slot//