เพื่อแผ่นดินเกิด
- Details
- Written by Super User
- Category: เพื่อแผ่นดินเกิด
- Published: 30 March 2016
- Hits: 2086
บุกเมืองคนไทยโบราณที่บ้านแมะ-ทุ่งใหญ่ กลางป่าปาล์ม แล้วแวะอีกวัดไทยที่ท้ายสวน กลางทางสู่มะริด (รายงานการไปมะริด-ตะนาวศรี ตอนที่ ๑๖) ตั้งใจจะ (บันทึก) ให้ถึงมะริดให้จงได้ในวันนี้ หลังออกจาก "มอโต้ง" ที่ได้แวะวัดม่อโต้งเจ๊าจี กับ ม่อโต้งเจ๊าหม่อ ที่บอกว่า เพยียนซักกะเว เป็นผู้สร้างเมื่อ ๒๐๐ กว่าปีก่อน ก็เกิดสงสัยว่าหมายถึงใคร พญาอะไรสักอย่างเสียกระมัง ชื่อว่า "ซักกะเว" นี้ ใครแปลงกลับได้กรุณาบอกด้วยนะครับ หลังกินเที่ยงริมทางที่บ้านซะแว่ โดยระหว่างทางได้สองภาพสวย คือรูปพระโคนอนหน้าถิ่นฐานยังกะเมืองพระศิวะ กับหมู่ลูกหมูกำลังตามแม่ข้ามสะพานกลับบ้าน พอถึงบ้านแมะก็ได้คนนำทางที่ร้านขายของริมทางหน้าโรงเรียน พาบุกสวนปาล์มน้ำมันขนาดใหญ่ที่คนขับรถบอกว่าเป็นบ้านเดิมของแม่เขา แล้วรัฐบาลมาเอาคืนไปให้สัมปทานนายทุนมาทำ ทั้งสวนซึ่งใหญ่มากนั้น เราเจอเนินใหญ่กลางเมืองที่มีกองอิฐเนื้อแกลบอย่างอิฐทวารวดี และมีชิ้นส่วนสถาปัตยกรรมศิลาชิ้นหนึ่งซึ่งเขาบูชากัน มีการสร้างศาลาให้ด้วย ยังไม่รู้ว่าข้างใต้จะมีอะไรบ้าง แต่โดยรอบเต็มไปด้วยคันดินและคูขนาดใหญ่ซ้อนกันสองสามชั้น ดูเหมือนจะมีสองวงใหญ่มากโดยไม่พบอะไรอื่น ได้แต่ตกลงกันว่าต้องกลับไปทำแผนที่ดาวเทียมดูแทน อ้อ พบป้าอังจี ชาวกะเหรี่ยงมาอยู่เก็บกินของป่านานแล้ว ป้าบอกว่าเป็นเมืองคนไทย ชื่อ บ้านแมะ - ทุ่งใหญ่ ตรงกับที่ Maurice Collis ระบุว่าชื่อ Tonbyaw อ่านดี ๆ ก็ ทุ่งใหญ่ นั้นเอง ได้ขอปันผักหนามกับหัวสาคลูที่ป้าหามาได้เพื่อเอาไปทำกินกับหอยซองพลูที่เมืองมะริดเย็นนี้ ที่ท้ายสวนปาล์ม เขาพาไปดูอีกวัดที่น่าจะเป็นของไทยมาแต่เดิม จากองค์พระพุทธรูปและฐานชุกชี แต่ผมชอบทุ่งข้าวกำลังสวย ภูมิสถานอย่างนี้ที่คนไทยชอบตั้งถิ่นฐาน แถมดอกมังเรริมทางกำลังบานแฉ่สีม่วงแฉ่ง ไม่แพ้บนเขาคินาบาลู แม้จะไม่ใหญ่โตเท่า เขาเรียกคล้าย ที่ภาคไต้เรียกว่า ดอกมังเร หรือ โถ๊ะ ว่า Melanostomata