เพื่อแผ่นดินเกิด

วันสุดท้าย ที่คณะจะไป #เวียงสระ
แต่ผมบอกให้แวะเขาศรีวิัชัยเสียก่อน เพราะสำคัญและมีอะไรให้ได้ดูกว่ามาก

" ... ตกลงเขานี้ เรียกอย่างนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ? ... "
ท่าน อ.ดร.#เอนก_เหล่าธรรมทัศน์ ถาม

นามว่า #อาณาจักรทะเลใต้ศรีวิชัย นี้ #ยอร์ช_เซเดส์
เป็นผู้อ่านจากจารึกพบที่ #วัดเสมาเมือง #เมืองนคร เมื่อปี ๒๔๖๑
แต่ในรายงานถวาย ร.๖ ระบุชื่อ #วัดศรีวิชัย ไว้ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๕๐ กว่า ๆ
ชาวที่นี่ ก็เรียกที่นี้ว่า #เขาศรีวิชัย บ้าง #เขาพระนารายณ์ บ้าง

มาตอนหลังที่มีการอ่านบันทึกทางจีน
พบมีชื่อแปลก ๆ และสรุปกันว่าอยู่ย่านนี้มากมาย
ตั้งแต่ #คันโทลิ #เชี๊ยะโท๊ว #ผ่านผ่าน ฯลฯ
ที่หลยฝ่ายว่าละม้ายมากมาก กับ #คันธุลีที่ท่าชนะ #ตามพรลิงค์ที่เมืองนคร และ #พุนพินที่ท่าข้าม
(เชี๊ยะโท๊วแปลว่าดินแดง ตามพรลิงค์แปลว่าแดงแผ่นดิน)

ที่สำคัญมีบันทึกการส่งทูตไปมาบรรณาการกัน
การพาคณะนี้ที่มีทูตไทยตั้ง ๓ ท่าน
ผมก็เลยสมมุติเล่น ๆ เสียเลยว่าพา #ทูตสยามมาเฝ้าเจ้าศรีวิชัย
แต่ดันไพล่ไปนึกถึงอีกทูตเจ้าปัญหาที่ไป #หริภุญไชย
เกิดการถกเถียงทางวิชาการครั้งใหญ่
ว่าท่านทูตนั้นชื่ออะไรกันแน่แท้

ขออภัยท่านที่ทนไม่ได้ กรุณาข้ามผ่านตอนนี้นะครับ
และหวังว่าระบบของเฟสบุ๊คจะไม่สกัดและปิดเพจผมหนอ

จำได้ไม่แม่นนัก ดูเหมือนจารึกจะระบุว่า " ... #คะวะยะนามะทูตํ ... "
ทำเอานักอ่านจารึกจารีต ไปไม่เป็น
จนอาจารย์ #หม่อมคึกฤทธิ์ ผู้แตกฉาน บอกว่าง่ายมาก

ท่านทูตนี้ชื่อ #ไอ้ไข่ หรือไม่ก็ #บักหำ ๕๕๕

เล่าเท่านั้น เห็นท่าน ๓ ทูตที่ไปด้วย ไปเป็นเลยครับ
อ้อ ตอนเล่าเรื่องแนวนี้
ผมบอกสตรีและผู้เยาว์ว่าห้ามฟังก่อนเสมอเลยครับ

ส่วนที่บนเขาศรีวิชัยเจออะไรนั้น
ผมยกให้พ่อ Surachet Keawsakun เป็นองค์บรรยาย
ทั้งที่กองกูณฑ์บูชาไฟ และอะไร ๆ ทั้งหลาย
ส่วนผมนั้น เหมาเรื่องอิฐ เสาและแท่นฐานครับผม

๒๔ มีค.๖๓ ๑๑๔๔ น.
บานบวรรัตน์ ท่าวัง เมืองนคร