เพื่อแผ่นดินเกิด

ทำให้ผมต้องสอบถาม ๒ ผู้สันทัดกรณีที่สิชล
จำรัส สิชล และ Apinun Komkum
ได้รับคำตอบตรงกันว่า " ... ไม่เคยเห็นมี ... "

" ... แล้วตอนสร้างโบสถ์ใหม่ ข้างใต้พบอะไรไหมครับ ?
มีรูปถ่ายอะไรไว้บ้าง ? ... "

" ... ออ ๆ ผมเจอ #ศิวลึงค์ซีกนึง
เขาขุดดินจาก ... (ผมจำไม่ได้) ... ไปถมที่วัดหิน
แล้วเจอศิวลึงค์แตกซีกปนไปกับดินถม
ทางวัดไม่เอาไว้ ผมเลยเอาไปวางไว้ใต้ต้นพิกุล
ตรงที่เคยเป็นหนำไอ้ไข่
วางไว้ตรงนั้น เหมือนมีหินศิลาพร้อมรูอยู่แผ่นหนึ่ง ... "

ต๋อยบอก พร้อมกับพาพวกเราตรงเข้าไปถึงที่

" ... ท่าน ... (ผมจำชื่อไม่ได้) ... บอกว่า
แผ่นนี้เอามาแต่บ้านลุง ... (ผมจำชื่อไม่ได้) ... ที่หน้าวัด
แต่ก่อนมีอยู่หลายแผ่น ไ่ม่รู้ตอนนี้ยังอยู่ไหม ?
วัดเจดีย์แต่ก่อนที่หลายสิบไร่ แล้วร้างลงเหลือไม่กี่ไร่
ถ้าอยากดู ต้องไปขอดู ตอนนี้เป็นที่เขาแล้ว ... "

จากนั้น ทั้ง ๒ ผู้สันทัดกรณีสิชลก็พาดูนู่นดูนี่ที่มาเองไม่มีทางได้ดู
ตั้งแต่ #ปล้องเจดีย์เดิม กับ #อิฐแผ่นเบ้อเริ่ม
แล้วก็ #เศียรพระเก่าของวัด ที่ทุกวันนี้เก็บรักษาไว้ในศาลาการเปรียญ

สุดท้ายก็ได้เรื่อง #ไก่ยักษ์ ของนายพลเอกท่านหนึ่ง
พี่จำรัสบอก่า ท่านมาสิชลตามนิมิตขณะนั่งสมาธิ
ว่ามีวัดลักษณะนั้น ๆ ๆ จึงตามหามาเจอ ตรงเป๊ะ
ก็เลยขอสร้างไก่ยักษ์คู่นี้ไว้หน้า โอฬาริกเลยครับ

ขอบพระคุณทุกท่านที่สิชล และวัดเจดีย์
ที่ยังรักษาร่องรอยสำคัญของดินแดนแผ่นดินนี้ไว้ครับ

๑๔ พค.๖๓ ๒๐๒๐ น.
บ้านบวรรัตน์ ท่าวัง เมืองคร