เพื่อแผ่นดินเกิด

๑) #บริเวณนี้ที่พบถ้ำพระ และเรียกกันว่า #ในวัง มี #วัดเทียนถวาย ใกล้ ๆ
กล่าวกันว่ามีผึ้งมาก เป็นที่ทำเทียนไปถวายพระธาตุ !!!
แบบอะไร ๆ ก็โยงไปพระธาตุกันเสียทั้งนั้น จนผมไม่อยากจะเชื่อ
บางคนบอกว่า ทำไมไม่คิดว่าเป็นวันที่คนชื่อเทียนถวาย ?
พี่ จำรัส สิชลบอกว่า มีปรากฏในตำราอะไรสักอย่าง ผมจำไม่ได้

แต่ที่น่าสนใจคือ คำเล่าว่านี้คือวัง
มีกำแพงหินธรรมชาติล้อมรอบอย่างที่เราเข้าไปและได้จากภาพโดรน
โดยข้างในและรายรอบ มีการขุดเจอกระเบื้องถ้วย ไหมีหูอยู่เรื่อย ๆ
แต่ที่จำได้คือเป็น #ที่นำพลายจำเริญ #ช้างสำคัญสมัยเจ้าพระยานครน้อย
ที่ไม่อยากส่งถวายเข้ากรุงสมัย ร.๓
จึงแอบเอามาเลี้ยงเงียบไว้ในวังเขานี้ ที่เป็นที่ราบราว ๆ ๓ ไร่
มีทางเข้าออกเพียงทางเดียว
น้ำท่าสมบูรณ์ ไม่มีท่วม ไม่เคยแล้ง

๒) ท่านพระครูถามถึงทางน้ำ และระยะทางจากปากคลองที่ทะเล
ได้ความว่าอยู่ #ริมคลองท่าควาย ที่ลงไปบรรจบกับอีกสายน้ำ
#ออกทะเลพอดีที่ปากน้ำสิชล
หากขึ้นมาทางเรือตามลำคลองนี้ จากปากน้ำถึงนี้ก็ ๑ วันพอดี
ผมถามว่า แล้วทำไมถึงต้องมากันที่นี่ เลยนี้ไปมีอะไรไหม ?
ได้คำตอบว่าป่าแถวนี้มี #ไม้จันทน์หอม #มีช้าง
ถามว่า #ดีบุก ? มีร่องรอยการหามาแต่โบราณก่อนฝรั่งมาหาไหม ?
ไม่มีใครรู้
แต่พี่ @จำรัส สิชล บอกว่า เลยขึ้นไปตามสายน้ำอีกวันหนึ่ง
ถึง #เขตเขาน้อย มีวัดและถ้ำพระมากมาย
" ... #ผมว่าเขตอรัญวาสีครับ ... "
คนแต่ก่อนน่าจะเข้าไปหาพระ แล้วเลยไปจากนั้นก็เข้าเขตเขา
แถบนั้น เคยมีการกล่าวถึง #การหาทองคำ
ที่ส่งออกไปทาง #กาญจนดิษฐ์ หรือ #ท่าทอง ที่ทุกวันนี้เป็นสุราษฎร์ !!!

๓) แต่ที่จำกันได้แน่ชัด ที่ดินในวังนี้ ของ #ญาติสนิทท่านปลัดพ่วง_สุวรรณรัฐ
ซึ่งเป็นคนเกิดที่เสาเภาแล้วมาเติบโตที่นี่
ทุกวันนี้มีญาติพี่น้องอยู่เต็ม แถมเรือนอยู่ของท่านสมัยเด็กก็ยังอยู่

โอย มีอะไรอีกมากมาย
รอ #ฅนสิชล ขยายความครับผม
ส่วนผมนั้น ถือโอกาสรายงานอีกเรื่องสำคัญ
เลยเพลแล้ว ขอไปหากินเที่ยงก่อนครับผม

๒๕ พค.๖๓ ๑๒๑๐ น.
บ้านบวรรัตน์ ท่าวัง เมืองนคร