เพื่อแผ่นดินเกิด

แรกสุดที่ท่านพระครู บอกข่าวนี้

พร้อมกับที่นาย นำประจักษ์พยานหลังฐานมาแสดงยืนยัน

ผมนั้น เคยคิดว่าขี้เกียจยุ่งกับเรื่องร้อน ๆ แล้ว

แบบว่า บอกไปเลยว่าหากจะช่วย ขอไม่ออกนอกหน้า

ทว่าหลังติดตามเรื่องราวและข่าวคราว ยาวมาเป็นเดือน

ไม่เห็นอะไรคืบหน้าอย่างที่ควรจะเป็น

ทั้ง ๆ ที่นี้เป็นเรื่องใหญ่และสำคัญมาก

แถมคนที่จะพอมีแรงและเกี่ยวด้วย ต่างบอกว่าลำบากใจ

ผมก็เลยรับอาสาปวารณารับใช้ถวายงานพระ

และอนุชนคนนี้ที่ผมนับถือมาก

ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือพระท่านก็ลุกขึ้นมาร่วมด้วยทุกรูป

โดยเฉพาะเถรานุเถระ เจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด

เจ้าคณะอำเภอ หัวหน้าแห่งหลายสถานศึกษาสงฆ์ ฯลฯ

โดยก่อนการนัดเจอสื่อมวลชนวานนี้นั้น

ผมยกร่างสำนวนผมไว้เพื่อประกอบตามนี้ โดยไม่ได้เอาออกมาใช้

เนื่องจากพระท่านนำได้อย่างเปี่ยมพลังและงามยิ่งครับ

ขอน้อมกราบสักการะมาอีกครั้งขอรับ

รวมทั้งขอบคุณพี่น้องสื่อมวลชนทุกคนที่สัมผัสได้ว่ามากกว่าสนใจและเอาจริง

ในการร่วมด้วยช่วยกันในการนี้ทุกท่านครับ

ช่วงขณะที่พวกเรากำลังยุ่งอยู่กับ #ปัญหาการระบาดของโควิด ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา ได้ #เกิดเหตุการโจรกรรมมรดกสำคัญของบ้านเมืองอย่างเงียบๆขึ้นที่เมืองนคร โดยความสำคัญนั้นพวกเราเห็นว่า สำคัญกว่ากรณีรื้อเรือนไม้สักทองที่แพร่ และบูรณะโบสถ์โบราณที่ชัยภูมิ เพราะเป็น #การโจรกรรมมรดกความทรงจำทางภูมิปัญญาของแผ่นดิน ที่บ่งชี้ว่าสังคมไทยเราเข้าสู่วิถีวัฒนธรรมการศึกษาค้นคว้าจดจารอ่านเขียนกันมาก่อนหน้าที่จะเกิดกระดาษฝรั่ง ดินสอ ปากกา การพิมพ์ ที่คลี่เป็นคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน ในวันนี้

ผมได้รับแจ้งจาก #ท่านพระครูเหมเจติยาภิบาล (โสพิทร์ อินฺทโสภิโต) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร และ ผู้อำนวยการโรงเรียนพระบรมธาตุพิทักษ์วิทยา ผู้สนใจศึกษาค้นคว้าเอกสารหนังสือโบราณว่าด้วยประวัติศาสตร์พงศาวดารของเมืองนคร ที่เก็บรวบรวมไว้ที่หอสมุดแห่งชาติ ท่าวาสุกรี จนพบข้อมูลใหม่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ของเมืองนคร ประวัติองค์พระบรมธาตุเจดีย์ จนกระทั่งแผนที่เมืองนครโบราณ ที่ไม่เคยมีใครเคยอ่านและล่วงรู้มาก่อน โดยทราบว่ายังมี #อีกคลังสำคัญอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ที่ครูบาอาจารย์ นักศึกษา ผู้ปกครอง ได้ร่วมกันขอรับมาจากวัดวาอาราม บ้านเรือน ทั่วเมืองนครตลอดจนหลายจังหวัดในภาคใต้ มาเก็บรักษาไว้เพื่อการศึกษาค้นคว้าต่อตั้งแต่เมื่อปี ๒๕๑๓ (๕๐ ปีก่อน) โดยได้จัดทำทะเบียน และ #มูลนิธิโตโยต้ากับมูลนิธิญี่ปุ่น ได้สนับสนุนการถ่ายทำสำเนาไมโครฟิล์มไว้แล้ว จำนวนประมาณ ๔,๐๐๐ เล่ม และจัดเก็บรักษาพร้อมกับการจัดแสดงไว้ที่ #ศูนย์ศิลปะวัฒนธรรม ภายในสถาบันแห่งนั้นแต่นั้นมา จนกระทั่งในเดือนเมษายน มีคนส่งข่าวว่ามีการเสนอขายหนังสือบุดจากภาคใต้เป็นจำนวนมาก ไม่ทราบว่าได้มาจากไหน แล้วในต้นเดือนมิถุนายน ท่านพระครูฯ ก็พบว่ามีการเสนอขายเล่มหนึ่งทางเพจคนรักสมุดไทย เหมือนกันมากกับเล่ม #สีมากถา ที่อยู่ในศูนย์ฯ นั้น เนื่องจากท่านพระครูฯ กับผม เคยไปขอทำสำเนามาศึกษา เนื่องจากเป็นเอกสารสำคัญ ว่าด้วยการสถาปนาเสมาของวัดวาอาราม เท่าที่แพร่หลายทราบกันทั่วไปมีไม่กี่ฉบับ #ฉบับสำคัญอยู่ที่วัดสุทัศนเทพวราราม โดยที่เมืองนครขณะนี้ได้ พบ ๒ ฉบับ คือ #ฉบับวัดจันทาราม ไม่ลงสี และฉบับดังกล่าวฯ ที่ลงสีสวยงามยิ่งกว่าฉบับวัดสุทัศน์ และได้สอบทานจากภาพการเสนอขายและที่ถ่ายสำเนาไว้ พบว่า #มีตำหนิตรงกันแทบทุกประการ จนมั่นใจว่าน่าจะคือฉบับเดียวกัน จึงได้พยายามติดต่อประสานกับหลายฝ่าย จนเป็นที่ประจักษ์ชัดว่าเกิดการโจรกรรมขึ้น ทราบว่ามีหนังสือบุดโบราณที่รวบรวมเก็บรักษาไว้ #สูญหายไปหลายร้อยเล่ม พร้อมกับพบว่าอย่างน้อย มีการนำมาออกเสนอขายแล้ว ๓ ฉบับ คือ #สีมากถา #พระมาลัยฉบับวัดใหญ่ และ #ตำราไพยสันตา (ตำรานวดจับเส้น) โดยทราบว่าแม้หนังสือ #พระนิพพานโสตร อันเป็นหนังสือสำคัญว่าด้วย #ตำนานพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช ที่กำลังดำเนินการเรื่องมรดกโลก ก็ถูกโจรกรรมในครั้งนี้ด้วย

ท่านพระครูฯ และ คณะ รวมทั้งผมด้วย มีความร้อนใจมาก เนื่องจากทั้งหมดนี้เป็นมรดกภูมิปัญญาสำคัญ ที่กำลังหาหนทางในการศึกษาค้นคว้าเพื่อนำมาประกอบการพัฒนาสร้างสรรค์สังคมและบ้านเมืองในอนาคต ได้พยายามประสานกับหลายฝ่าย จนกระทั่งทราบว่าได้มีการเริ่มดำเนินการตรวจสอบและสอบสวนกรณีนี้ พร้อมทั้งแจ้งความต่อตำรวจเพื่อดำเนินการแล้วตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน และท่านพระครูฯ ได้นำคณะเข้าให้การต่อตำรวจจนมีความคืบหน้าทางคดีไม่น้อย ซึ่งการหาผู้ผิดในการโจรกรรมครั้งสำคัญนี้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานและบ้านเมืองต่อไป แต่ท่านพระครูฯ มีความห่วงใยว่ามรดกภูมิปัญญาของบรรพชนมากมายหลายร้อยเล่มที่ถูกโจรกรรมจะสูญหาย ไม่ได้รับกลับคืนมา จึงหารือกับ #พระเถรานุเถระในเมืองนคร เห็นตรงกันว่า #มรดกภูมิปัญญานี้จำนวนมากล้วนขอรับไปจากวัดวาอารามเมืองนคร #หมู่พระเมืองนครจะขอบิณฑบาตคืนหนังสือบุดสมุดข่อยที่ถูกโจรกรรม นี้กลับมาจากท่านที่รับซื้อหรือเก็บไว้โดยสุจริต ไม่ทราบว่าเป็นของที่ได้มาโดยมิชอบ โดยหมู่สงฆ์เมืองนครจะ #ตั้งกองรับคืนที่ศรีธรรมราชพิพิธภัณฑ์ พระวิหารเขียน-โพธิ์ลังกา #เบื้องหน้าองค์พระบรมธาตุนครศรีธรรมราช พร้อมกับการจัดทำทะเบียนรับเพื่อส่งมอบต่อเจ้าพนักงานสอบสวนซึ่งได้ประสานหารือกันแล้ว โดยจะไม่ให้เกี่ยวกับคดีความ ทั้งนี้สามารถติดต่อตรวจสอบได้ว่าใช่ฉบับที่หายไปจากคลังของสถาบันนั้นหรือไม่ หากเกินระยะเวลา ๓ เดือนจากนี้และมีการพบในภายหลังว่าท่านผู้ใดครอบครองเอกสารภูมิปัญญาหนังสือบุดที่ถูกโจรกรรมไปจะเป็นหน้าที่ดำเนินการของเจ้าพนักงานตำรวจต่อไป สำหรับท่านที่อาจไม่สะดวกในการไปถึงเมืองนคร สามารถส่งมอบได้ที่ #หอจดหมายเหตุพุทธทาส_อินทปัญโญ กรุงเทพมหานครครับ

การครั้งนี้ ผมประมวลจากการติดตามรับทราบจากท่านพระครูฯ

และปวารณาร่วมเป็นหนึ่งในผู้รับสนองงานพระเมืองนคร ในการนี้ครับ

บัญชา พงษ์พานิช

สวนสร้างสรรค์ นาคร-บวรรัตน์ / บวรนคร

๑๕ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๓

๑๗ กค.๖๓ ๐๕๕๐ น.

บ้านบวรรัตน์ ท่าวัง เมืองนคร