ผมได้รับแจ้งจาก
#ท่านพระครูเหมเจติยาภิบาล (โสพิทร์ อินฺทโสภิโต) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร และ ผู้อำนวยการโรงเรียนพระบรมธาตุพิทักษ์วิทยา ผู้สนใจศึกษาค้นคว้าเอกสารหนังสือโบราณว่าด้วยประวัติศาสตร์พงศาวดารของเมืองนคร ที่เก็บรวบรวมไว้ที่หอสมุดแห่งชาติ ท่าวาสุกรี จนพบข้อมูลใหม่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ของเมืองนคร ประวัติองค์พระบรมธาตุเจดีย์ จนกระทั่งแผนที่เมืองนครโบราณ ที่ไม่เคยมีใครเคยอ่านและล่วงรู้มาก่อน โดยทราบว่ายังมี
#อีกคลังสำคัญอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ที่ครูบาอาจารย์ นักศึกษา ผู้ปกครอง ได้ร่วมกันขอรับมาจากวัดวาอาราม บ้านเรือน ทั่วเมืองนครตลอดจนหลายจังหวัดในภาคใต้ มาเก็บรักษาไว้เพื่อการศึกษาค้นคว้าต่อตั้งแต่เมื่อปี ๒๕๑๓ (๕๐ ปีก่อน) โดยได้จัดทำทะเบียน และ
#มูลนิธิโตโยต้ากับมูลนิธิญี่ปุ่น ได้สนับสนุนการถ่ายทำสำเนาไมโครฟิล์มไว้แล้ว จำนวนประมาณ ๔,๐๐๐ เล่ม และจัดเก็บรักษาพร้อมกับการจัดแสดงไว้ที่
#ศูนย์ศิลปะวัฒนธรรม ภายในสถาบันแห่งนั้นแต่นั้นมา จนกระทั่งในเดือนเมษายน มีคนส่งข่าวว่ามีการเสนอขายหนังสือบุดจากภาคใต้เป็นจำนวนมาก ไม่ทราบว่าได้มาจากไหน แล้วในต้นเดือนมิถุนายน ท่านพระครูฯ ก็พบว่ามีการเสนอขายเล่มหนึ่งทางเพจคนรักสมุดไทย เหมือนกันมากกับเล่ม
#สีมากถา ที่อยู่ในศูนย์ฯ นั้น เนื่องจากท่านพระครูฯ กับผม เคยไปขอทำสำเนามาศึกษา เนื่องจากเป็นเอกสารสำคัญ ว่าด้วยการสถาปนาเสมาของวัดวาอาราม เท่าที่แพร่หลายทราบกันทั่วไปมีไม่กี่ฉบับ
#ฉบับสำคัญอยู่ที่วัดสุทัศนเทพวราราม โดยที่เมืองนครขณะนี้ได้ พบ ๒ ฉบับ คือ
#ฉบับวัดจันทาราม ไม่ลงสี และฉบับดังกล่าวฯ ที่ลงสีสวยงามยิ่งกว่าฉบับวัดสุทัศน์ และได้สอบทานจากภาพการเสนอขายและที่ถ่ายสำเนาไว้ พบว่า
#มีตำหนิตรงกันแทบทุกประการ จนมั่นใจว่าน่าจะคือฉบับเดียวกัน จึงได้พยายามติดต่อประสานกับหลายฝ่าย จนเป็นที่ประจักษ์ชัดว่าเกิดการโจรกรรมขึ้น ทราบว่ามีหนังสือบุดโบราณที่รวบรวมเก็บรักษาไว้
#สูญหายไปหลายร้อยเล่ม พร้อมกับพบว่าอย่างน้อย มีการนำมาออกเสนอขายแล้ว ๓ ฉบับ คือ
#สีมากถา #พระมาลัยฉบับวัดใหญ่ และ
#ตำราไพยสันตา (ตำรานวดจับเส้น) โดยทราบว่าแม้หนังสือ
#พระนิพพานโสตร อันเป็นหนังสือสำคัญว่าด้วย
#ตำนานพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช ที่กำลังดำเนินการเรื่องมรดกโลก ก็ถูกโจรกรรมในครั้งนี้ด้วย