เพื่อแผ่นดินเกิด
- Details
- Written by Super User
- Category: เพื่อแผ่นดินเกิด
- Published: 26 June 2016
- Hits: 1603
King Taksin Pathway & Metal Roof Sala @ Muang Nakorn
ทางพระเจ้าตาก กับ ศาลาสังกะสี
โร้ม่าย ไซ๋ชื่อนี่ ครั้งที่ ๕
(bunchar.com เพื่อแผ่นดินเกิด 20160626)
ตะกี้นี้ หลังจากไปสำรวจแหล่งโบราณคดีเมืองโบราณพันปีที่จันดี
พอดีมีเวลา ผมจึงแวะไปร่วมเสวนาที่ลานพระบรมธาตุเมืองนคร
ได้ยินนายเอ็ม กิตติชาติ กับพี่เหลิม กำลังคุยเรื่องสมเด็จพระสังฆราชสี
ที่เอ็มกับพวกกำลังริเริ่มศึกษาค้นคว้า
ข่าวว่าจะร่วมกับ มรภ.นศ.กับ สกว.ทำเป็นโครงการวิจัยชุมชนฯ
ได้ยินยก ๓ หลักฐานการสนับสนุน
๑) ที่ทางพระเจ้าตากใต้วิหารทับเกษตรตรงฐานองค์พระบรมธาตุ ที่สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงให้ปฏิสังขรณ์เมื่อคราวมาผนวกเมืองนครกลับคืนรัฐไทยหลังเสียกรุง ทรงสร้างรูปพระอาจารย์สีไว้คู่กับพระองค์ท่านตรงสุดทางที่ฐานบันไดขึ้นลานประทักษิณ แต่เดิมเรียกกันว่า "พระศรีอาริย์" แต่สันนิษฐานใหม่ว่า คือ "พระสี" กับ "พระสิน"
๒) ที่วัดป่าตอ (ที่กร่อนมาจาก "วัดป่าต่อแดนนครกับร่อนพิบูลย์"-ผมเติม) มีหลักฐานการหลีกสงครามจากอยุธยาลงมาอยู่ของ "พระสี" ก่อนที่พระเจ้าตากสิน ได้รู้ข่าว จึงอาราธนานิมนต์กลับไปฟื้นคืนพระพุทธศาสนาที่กรุงธนบุรี ทุกวันนี้ เจ้าอาวาสทุกรูปยังมีป้ายทองเหลืองรูปวัดพนัญเชิงกับสมเด็จโตที่สืบทอดกันมา
๓) ที่วัดประดู่เมืองนคร มีบัวบรรจุอัฐิองค์หนึ่ง เล่ากันว่าเป็นบัวบรรจุอัฐิธาตุของสมเด็จพระสังฆราชสี
โดยพี่เหลิม เสริมว่า คราวนั้น ผาติกรรม พระไตรปิฎกจากวัดหอไตรร้างไปเป็นต้นเค้าพระไตรปิฎกฉบับประจำพระนคร แล้วสร้างพระบรมราชาถวายไว้แทน
ถึงตอนนี้ ผมก็ขอเติมต่อว่า หากเข้ากับเวที "โร่ม่าย ไซ๋ชื่อนี้"
หนึ่ง คือที่มาของชื่อ "ทางพระเต้าตาก" ในทับเกษตร ส่วนชือ "พระสี" กับ "พระสิน" ผมเคยได้ยินแต่เรื่อง "พระศรีอาริย์"หากจะสันนิษฐานและสรุปอะไร ขอให้สำรวจศึกษากันให้ดีด้วย เดี๋ยวจะไปกันใหญ่
สอง หากเรื่อง "ท่านสี" ซึ่งเป็นที่มาของเรื่อง "ชื่อ" ต้องไปที่ "ศาลาสังกะสี"
ตรงสี่แยกทางเข้าคีรีวงโน่น ผมเคยถามไถ่ ได้ความแต่ว่า "เป็นศาลามุงสังกะสีมาแต่เดิม" ในขณะที่ อาจารย์ยัณฑิต สุทธมุสิก บอกใหม่ว่า คือ "ศาลาสังฆราชสี" ด้วยเมื่อท่านอยู่ที่วัดป่าตอนั้น เคยเดินทางผ่านมาทางนี้ มีคนสร้างศาลาถวาย และจดจำกันในชื่อนี้ ก่อนที่จะกร่อนกลาย เป็น "ศาลาสังกะสี"
สาม ตรงนี้ ผมจึงแถมเรื่องชื่อ "วัดป่าตอ" ที่ตอนนี้ อาจเข้าใจไปว่าเป็นวัด "ป่าตอ(ไม้)" หรือ "ป่า(ต้นสะ)ตอ" เพราะเคยไปสำรวจ ได้ความมาอีกอย่างว่าคือ "ป่าต่อแดนนครกับร่อนพิบูลย์" แต่คนใต้ ออกเสียง "ต่อ" กับ "ตอ" เหมือนกัน พอเขียนอย่างทางการ ก็เลยกลายเป็น "วัดป่าตอ" มิใช่ "วัดป่าต่อ" อีกต่อไป
สี่ ไม่ได้พูดตรงที่เวที แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ "หอไตร" ที่ว่าคือวัดร้างทีประดิษฐานพระไตรปิฎกองค์สำคัญซึ่งสมเด็จพระเจ้าตากสินอัญเชิญไปฟื้นฟูพระพุทธศาสนานั้น ที่พี่เหลิมว่าร้างแล้วแต่ครั้งนั้น ผมไม่แน่ใจว่าอย่างนั้นหรือว่าเพิ่งร้าง ทุกวันนี้คือที่ตั้งวิทยาลัยศิลปหัตถกรรม ใน "ตรอกหอไตร" นั้นเอง เรื่องนี้พี่เหลิมว่าผาติกรรมไป แต่ผมเคยอ่านพบว่าทรงยืมไปแล้วส่งกลับคืนมาพร้อมกับฉบับใหม่ที่จำลองถวายกลับมาด้วย ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน ? ใครจะช่วยสอบทานหาให้ได้ไหม ? อาจอยู่ในพระธาตุนี้ก็เป็นได้ ใครจะรู้ ?
สุดท้าย ผมถามว่า อยากรู้ไหม ทำไมเรียกว่า "จันดี" ที่ผมเพิ่งไปมา ?
พี่เหลิมว่า แล้วรู้ไหมว่ามี ๒ จันดี ทำไม ?
แล้วแถมกับเอ็มด้วยว่า หากมีอะไรให้มีส่วนร่วมงานวิจัยเรื่อง "ท่านสี"
ขอให้บอกด้วย เพราะเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ ทั้งในระดับจังหวัด
ระดับชาติ และ พระพุทธศาสนาไทย
ด้วยทรงเป็นสังฆราชสองแผ่นดิน
ทั้งธนบุรีที่ถูกถอดด้วยความมั่นคงในพระวินัย และ องค์ปฐมรัตนโกสินทร์
และควรใช้หลายหลักฐาน ทั้งเรื่องเล่า และหลักฐานภูมิศาสตร์
กับประจักษ์พยานวัตถุสถานอื่น ๆ ประกอบด้วย
เท่านี้ก่อนนะครับ
๒๖ มิย.๕๙
ขอบคุณพี่เหลิม นายเอ็ม และ เบ็นซ์ ส่วนเอก ไม่รู้ไปไหน ?