เพื่อแผ่นดินเกิด

เมื่อเช้านี้ พวกเราออกจากกรุงเทพที่ดอนเมืองแต่เช้าโดยเครื่องบินเลี้ยวขวาที่หลักสี่ให้ได้เห็นศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะกับเมืองทองธานีที่มีโค้งน้ำเจ้าพระยาที่ไหลมาจากอยุธยาและเมืองปทุม กับเกาะใหญ่ที่ยังยืนหยัดไม่มีสะพานข้ามถึง จากนั้นจึงเป็นทุ่ง “ลาด” ทั้งหลายของเมืองนนทบุรี มีเมืองสุพรรณกับอู่ทองอยู่ไกลโพ้น เห็นแต่สายน้ำท่าจีนที่ไหลลงมาเป็นจุดหมายตาจนถึงคลองเจดีย์บูชาที่ตัดตรงเข้าไปถึงองค์พระปฐมเจดีย์ที่เห็นอยู่ลิบ ๆ แล้วจึงถูกบดบังด้วยเมฆหน้าเหนือลุ่มน้ำแม่กลองจนไม่ได้เห็นอะไรอยู่นาน กระทั่งฟ้าเปิดอีกหนเพียงชั่วขณะหนึ่งที่แถบเทือกเขาตะนาวศรีในท้องที่จังหวัดประจวบอาจจะแถวด่านสิงขรที่ออกไปตะนาวศรีและมะริด เรียกว่าผ่านสามด่านทางข้ามคาบสมุทรตอนบน ตั้งแต่ที่ด่านบ้านพุน้ำร้อนเมืองกาญจน์ทะลุทวาย ด่านหินสามกองที่จอมบึง และด่านสิงขรดังกล่าว
พอถึงชุมพรที่เครื่องลงทะเลให้เห็นชายฝั่งแถบเขาสามแก้วก็พอดีเห็นแนวคลองกระที่ต่อเนื่องมาจากปากจั่นที่ระนอง-เกาะสอง เป็นแถบกว้างอยู่ที่อีกฟากหนึ่ง ซึ่งถือเป็นอีกเส้นทางคาบสมุทรสำหรับวันนี้ ที่ได้เห็น โดยเครื่องเลียบฝั่งเห็นอ่าวหลังสวนที่มีอีกเส้นทางข้ามคาบสมุทรบริเวณพะโต๊ะ จนเข้าเขตสุราษฎร์ฯ ที่ท่าชนะ เครื่องก็ตีโค้งข้ามตามช่องสู่เขาสก ไล่สายน้ำตาปีไปจนถึงเขื่อนรัชชประภาแล้ววกลงอ่าวพังงามาลงสนามบินภูเก็ตเป็นเส้นทางข้ามคาบสมุทรโบราณเส้นที่ ๖ สำหรับวันนี้ แบบที่ถ้าจะให้กลับเลยก็ถือว่าพึงพอใจไม่น้อยแล้ว สำหรับเที่ยวบินพิเศษวันนี้

๒๔ สค.๕๙

เกาะเกร็ด

เขื่อนรัชชประภา

อ่าวพังงา

หลักสี่-แจ้งวัฒนะ

ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ

เมืองทองธานี

นนทบุรี

แม่น้ำท่าจีน

คลองเจดีย์บูชา

พระปฐมเจดีย์

เหนือประจวบ?

คลองกระที่คอคอดกระ

หลังสวน?

เขื่อนรัชชประภาและตาปี