การพระศาสนา

กับรัฐบาลนั้นอ่านที่นายกฯ เอามาพูด รวมทั้งที่รองฯวิษณุ กับ โฆษกรัฐบาล และ นสพ.เอามาลงแล้วปวดหัว มั่ว ๆ ยังไงชอบกล แต่ที่ท่านให้กับประชาชนที่ นสพ.ยกมาทั้งท่อนนั้น จับใจมาก ๆ ทรงเริ่มด้วยศรัทธาในพระพุทธศาสนาของพระพุทธองค์ที่ผ่านการทดสอบ แล้วยกธรรมภาษิตประจำ ร.๕ ที่อาราธนามาประจำตราของพระองค์แล้วนำมาติดไว้ที่วัดราชบพิธ ที่แปลว่า "ความพร้อมเพรียงแห่งชนผู้อยู่ร่วมกันเป็นหมู่ ยังความเจริญให้บังเกิดขึ้น" โดยสมเด็จฯ ทรงย้ำว่า "...ขอให้ทุกท่านจำคำนี้ไว้ และนำไปปฏิบัติด้วย กลุ่มน้อยกลุ่มใหญ่ทั้งประเทศ นำภาษิตนี้ไปใช้ปฏิบัติ หากเราแตกแยกกันอะไรจะเกิดขึ้น..."

วันนี้ท่านจะไปกราบสมเด็จช่วงฯ ที่วัดปากน้ำ ส่วนการขับเคลื่อนงานพระศาสนาจะเป็นอย่างไรนั้น วันก่อนท่าน อ.หมอเกษมบอกไว้ว่าจะชวนไปกราบท่านด้วยกันครับ

นอกจากนั้นยังมีอีก ๒ ข่าวที่อยากบอกแม่ (และทุกคนที่อ่าน) คือท่านสมเด็จช่วงฯ ที่เดิมนั้นคาดหมายว่าจะได้ขึ้นนั้น ท่านกล่าวเตือนพระอย่างที่ไม่น่าที่พระสงฆ์องค์เจ้าจะต้องเตือนกันอย่างนั้น ชี้ชัดเลยว่าการพระพุทธศาสนาของไทยเรานั้นมีปัญหาลึกลงไปไม่น้อย จนถึงกับต้องถึงระดับนี้

แต่ที่ชอบใจที่สุดคือที่พระธาตุพนม เพราะไปมาทุกทีเจอของดีเรื่อย ๆ โดยเฉพาะที่หน้าห้อง สนง.วัด มีการทำรายงานรับจ่ายประจำวัน ประจำงานอย่างชัดเจนตลอดมา อย่างงานบูชาพระธาตุพนม มาฆบูชาที่เพิ่งผ่าน ท่านก็แถลงกันชัดเจนอย่างในข่าว แถมท่านนายอำเภอมาชี้แจงเรื่องมรดกโลกอย่างเป็นการเป็นงาน ผมเคยเรียนว่ารบกวนท่านช่วยพัฒนาระบบให้ทุกอย่างเข้าที่เพื่อนายอำเภอใหม่มาจะได้สานงานวัดได้ดีอย่างที่ท่านทำ ท่านบอกว่า ผมเป็นข้าฯ วัด ขออยู่ที่นี่อย่างนี้แหละครับ

อยากเห็นวัดอื่น ๆ ทั่วทั้งประเทศเป็นอย่างที่พระธาตุพนมจังเลยครับ.

๑๖ กพ.๖๐