การพระศาสนา

ผมเพิ่งกลับมาจากตามคณะบุญจาริกไปร่วมงานปฏิบัติธรรมกับพระอยู่ปริวาสกรรมที่วัดโนนกุดหล่ม ศรีสะเกษ ที่มีพระไปอยู่กันเกือบ ๒๐๐ รูป กับคนไปปฏิบัติธรรมสัก ๕๐๐ คน โดยวันนี้ที่ตรงกับวันพระและวันอาทิตย์ด้วย มีคนไปใส่บาตรทำบุญอีกสัก ๔ – ๕๐๐ คน โดยเมื่อวานนี้ตอนลาพระอาจารย์ราวี ทุกคนบอกว่าดีมาก ได้ปฏิบัติธรรมแถมกำลังใจอีกมากมาย โดยผมเองก็บอกว่างานนี้ที่อยากให้ชาวพุทธไทยทั้งหลายได้ไปร่วมกัน ด้วยเป็นงานวัดที่หมดงดงามในแทบทุกด้าน และหากวัดในเมืองไทยเป็นอย่างนี้ ทำกันอย่างนี้สักจังหวัดละ ๕ – ๑๐ วัด เชื่อได้ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในการพระพุทธศาสนาของประเทศไทยอย่างแน่นอน

ปริวาสกรม : งานนี้มีฐานตามวินัยบัญญัติบวกกับประเพณีฮีต ๑๒ ของภาคอีสาน คือ “บุญเข้ากรรมเดือนยี่” ที่คณะศิษย์พระอาจารย์สมภพนำมาผนวกเข้ากับการชุมนุมปฏิบัติธรรมประจำปี เฉพาะที่วัดโนนกุดหล่มปีนี้จัด ๑๐ วัน ต่อด้วยการธรรมยาตราจากผามออีแดงมาถึงวัด โดยขณะที่พระท่านมาอยู่ปริวาสกรรมกันนั้น ท่านเป็นเปิดโอกาสให้ผู้คนได้มาอยู่ร่วมปฏิบัติธรรมร่วมด้วยในบางช่วง แล้วแยกกันในช่วงที่ต้องเป็นกิจเฉพาะพระ ทำมาหลายปีจนเป็นที่รู้จักและนิยมของพระจำนวนหนึ่ง พวกเราพาคณะมากี่รายเป็นประทับใจกันทุกคนว่าอย่างนี้มีด้วยหรือ ?

เท่าที่พวกเราสรุปกันดังนี้
สถานที่เรียบง่าย สะดวกสบายแบบธรรมชาติและบ้าน ๆ สะอาดหมดจดแบบอยู่กับดิน บรรยากาศสงบสัปปายะ การต้อนรับดีเยี่ยม ผู้เข้าร่วมทั้งหมดหลายร้อยก็มุ่งมั่นและมีไมตรีจิตเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เป็นกัลยาณมิตร อาหารวันละมื้ออร่อยมาก ห้องน้ำสะอาด กำหนดการลงตัวเป๊ะ ๆ การบรรยายและนำพาภาวนาก็ลื่นไหลแบบผ่อนคลาย เชิญชวนและท้าทาย ให้กำลังใจกันเป็นระยะ ๆ ที่ประทับใจมาก ๆ คือลานธรรมปูฟางท่ามกลางป่าดง กับ การเดินจงกรมรอบสระนาฬิเกร์ยักษ์กับเขาคิชฌกูฏจำลองยามเช้าและเย็น

นอกจากงานนี้แล้ว ที่วัดยังจัดงานวิสาขบูชาควบกับพุทธทาสรำลึกเป็นประจำทุกปีด้วย โดยตอนนี้กำลังจะพัฒนาเป็นศูนย์อบรมและปฏิบัติธรรมแบบมีหลักสูตรประจำเดือนอีกด้วย

ท่านใดรอไปกับพวกเราปีหน้าไม่ไหว ก็ขอเญแวะไปกันเองได้นะครับ อยู่ในอำเภอเมือง ห่างตัวเมืองเพียง ๑๒ กม.เท่านั้นเองครับ.

นี้เฉพาะภาพตอนเย็นวันที่ ๑๘ ที่ผมไปถึงพอดีกำลังเดินจงกรมครับ

๒๐ กพ.๖๐