การพระศาสนา

ถูกกำหนดให้เป็นคนกล่าวเปิดงานนี้ ที่จั่วหัวว่า " ... ขอบคุณความทุกข์ ... "

โดยในงานปีนี้ คณะศิษย์หลวงพ่อคำเขียน พิมพ์หนังสือออกมา ๒ เล่ม

ชื่อ เห็นทุกข์ ... พ้นทุกข์ กับ ขอบคุณความทุกข์

ผมเองนั้น พกเล่ม ธรรมะ ๙ ตา จะมาเล่าความ

ที่ท่านอาจารย์จาระนัยเรื่องทุกข์

แต่พอดีวันก่อนหน้า คุณเสริมสิน สมะลาภา เอาอีกเล่มมาบอกให้อ่าน

อ่านแล้วโดนมาก ก็เลยพกมาประกอบเป็นสำคัญ

ยูวัล โนอาห์ แฮรารี เขียนใน Sapiens บทรองสุดท้าย

ก่อนจบบทที่ ๒๐ ว่าด้วย จุดจบของโฮโมเซเปียนส์

ในบทที่ ๑๙ ว่า แล้วพวกเขาก็อยู่กันอย่างมีความสุขนับจากนั้นมา

ในนั้นตั้งคำถามพร้อมบอกคำตอบไว้ว่าด้วยการแสวงหาความสุขและพ้นทุกข์

ของมวลมนุษยชาติไว้อย่างต้องเอามาอ่านบอก ...

" ... ศาสนาและปรัชญาส่วนใหญ่จึงเข้าถึงความสุขด้วยวิธีการที่แตกต่างจากวิธีการแบบลัทธิเสรีนิยมเป็นอย่างมาก มุมมองแบบพุทธศาสนิกชนดูจะมีความน่าสนใจมากเป็นพิเศษ เป็นไปได้ว่าศาสนาพุทธให้ความสำคัญกับเรื่องของความสุขมากกว่าหลักคำสอนในศาสนาอื่น ๆ นานถึง ๒,๕๐๐ ปีแล้ว ที่พุทธศาสนิกชนศึกษาเรื่องแก่นและเหตุของความทุกข?อย่างเป็นระบบซึ่งก็เป็นเหตุผลที่ว่าเหตุใดชุมชนวิทยาศาสตร์จึงหันมาให้ความสนใจทั้งหลักปรัชญาและวิธีเข้าสมาธิของศาสนานี้มากขึ้นเรื่อย ๆ ...

... ศาสนพุทธมองเรื่องของความสุขอย่างลึกซึ้งในแบบคล้ายคลึงกับผลจากการวิจัยด้านชีววิทยา ... "

วันนี้มีอีกงานอาจตลอดวัน มีเวลาค่อยเล่าต่อครับผม

๒๑ สค.๖๕ ๐๖๓๗ น.