บัญชาชีวิต

เมืองนครของเรา บนหน้าหนังสือนำเที่ยว ชั้นนำของโลก
แล้วเราจะช่วยกันให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นกว่านี้ได้อย่างไร ?
(สำหรับนครดอนพระใน นสพ.รักบ้านเกิด เดือน มีค.๕๙)

ในฐานะคนชอบเที่ยวและชอบเหลียวมองเพื่อหาหนทางพัฒนาในฐานะบ้านเกิด วันนี้ขออนุญาตชวนดูหนังสือนำเที่ยวเล่มสำคัญของโลกที่ตีพิมพ์เผยแพร่มานานและแพร่หลายมากที่สุดเล่มหนึ่ง คือ EYEWITNESS TRAVEL ตีพิมพ์ที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวระดับกลางถึงบนเพราะพิมพ์สี่สีพร้อมภาพประกอบและแผนที่แผนผังสวยงามมาก ไปไหน ๆ ผมชอบใช้เล่มนี้คู่กับ LONEL PLANET ที่เต็มไปด้วยข้อมูลการบุกตะลุยเอง ของเมืองไทยมีออกมานานมากแล้ว มีเรื่องเมืองนครไม่มาก แต่เมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๓ เขาออกเล่มเฉพาะชายหาดและเกาะ (BEACHES & ISLANDS) ออกมาโดยรวมเอา "กีฬาทางน้ำ ป่าไม้ วัดวาอาราม ประเพณี ชีวิตป่า การดำน้ำ อุทยานแห่งชาติ ตลาด ร้านอาหาร และ โรงแรม" ไว้ด้วย แรกเจอนั้นเขาให้พื้นที่เมืองนครไว้ถึง ๑๐ หน้าจากทั้งหมดที่แนะนำรายพื้นที่ ๒๓๔ หน้า ก็ราว ๆ ร้อยละ ๔ หากเมืองนครสามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่มาประเทศไทยได้ถึงร้อยละ ๔ จริงก็ไม่เป็นอยู่อย่างนี้แน่นอน ทั้งนี้บนปกหลังถึงกับนำภาพวัดพระบรมธาตุมาวางไว้อย่างโดดเด่น
ไม่กี่วันก่อน ผมแวะสำรวจชั้นหนังสือนำเที่ยวอีกรอบ เจอเขาพิมพ์ใหม่เมื่อ พ.ศ.๒๕๕๕ และ ๒๕๕๗ โดยมีการเปลี่ยนปก โดยปกหลังยังเป็นภาพวัดพระบรมธาตุเมืองนคร แต่ขยายใหญ่ไว้อย่างเต็มตา พร้อมคำคำนิยมของสองหนังสือชั้นนำในโลก The Independenct เพื่อชวนใช้ไว้ว่า "ไม่มีคู่มือไหนที่เหมาะมือเท่าเล่มนี้" กับของ The Observer ว่า "อะไรจะอ่านได้อย่างรื่นรมย์พร้อมภาพถ่ายแสนสวยกับแผนที่และแผนผังชั้นเยี่ยม"

ที่เกี่ยวกับเมืองนครในทั้ง ๒ เล่มนั้นเหมือนกันทุกประการ จัดให้อยู่ในกลุ่ม Lower Western Gulf Coast หรือชายฝั่งอ่าวฟากตะวันตกที่ระบุไว้ว่า "ช่วงนี้ของชายทะเลอ่าวไทยเต็มไปด้วยหาดทรายขาวสะอาดซึ่งมีเกาะสมุยเป็นหัวแหวนแถมด้วยเกาะพงันและเกาะเต่า โดยมีหมู่เกาะอ่างทองที่สวยสุดพิเศษของประเทศไทยแบบไม่มีที่ไหนเทียบเท่า ในขณะที่ไล่ลงไปแม้จะยังสงบ แต่ก็มีไชยาที่เคยเป็นฐานสำคัญสมัยศรีวิชัย โดยเฉพาะนครศรีธรรมราชที่เป็นเสมือนนครหลวงแห่งอารยธรรมของไทยใต้ก็อยู่ที่นี่โดยมีเขาหลวงที่เป็นอีกแหล่งธรรมชาติสำคัญและไม่ธรรมดา" ทั้งนี้เขาไล่ลงไปตั้งแต่ไชยา สวนโมกข์ สุราษฎร์ สมุย พะงัน เกาะอ่างทองและเกาะเต่า แล้วก็ต่อเป็นตับลงไปตั้งแต่หาดขนอม-หน้าด่าน-ในเปร็ต-ในเพลา-ท้องหยี-สิชล-หินงาม-ปิติ-เสาเภา-สระบัว แล้วก็ผ่านเขาคา เขาหลวง กับตัวเมืองไปถึงแหลมตะลุมพุก โดยจัดเนื้อที่ให้สุราษฎร์ทั้งหมด ๒๕ หน้า นครศรีธรรมราช ๑๐ หน้า ซึ่งนับว่าไม่น้อยหน้าทีเดียว แต่ที่เด่นที่สุดคือการจัดทำแผนผังสองหน้าคู่ให้กับวัดพระบรมธาตุของเราพร้อมยกไปอยู่ที่ปกหลังด้วย ในขณะที่เกาะสมุยกับหมู่เกาะอ่างทองที่ทำเป็นแผนผังหน้าคู่ด้วยนั้นไม่โดดเด่นเท่า เขาระบุไว้ว่าเป็นหนึ่งในมหาเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์แห่งภาคใต้และเชื่อว่าประดิษฐานพระทันตธาตุไว้โดยพระธนกุมารและเหมชาลาบนหาดทรายแก้วก่อนที่พระเจ้าศรีธรรมโศกราชจะมาตั้งเมืองนครในพุทธศตวรรษที่ ๑๘ พร้อมกับบูรณะและสถาปนามหาธาตุเจดีย์นี้ซึ่งมีลักษณะผสมผสานนานาลักษณะไทยเข้าไว้ องค์เจดีย์เป็นทรงลังกาที่ถือเป็นหนึ่งในสัญญลักษณ์สำคัญของชาติไทย ดังปรากฏบนตราประจำจังหวัดและด้านหลังเหรียญ ๒๕ สตางค์ ทั้งนี้ในแผนผังมีชี้อธิบายไว้ ๖ จุด ประกอบด้วย องค์เจดีย์ พระวิหารหลวง วิหารทับเกษตร วิหารพระทรงม้า และพิพิธภัณฑ์วิหารเขียน โดยรูปพระนางเหมชาลา-พระธนกุมารนั้น เขียนผิดเป็นพระรามกับนางสีดาและกล่าวว่าเกี่ยวกับศาสนาฮินดูอย่างน่าเสียดาย นอกจากนี้ยังมีล้อมกรอบบอกว่ายังมี ๑๗๓ เจดีย์ราย วิหารธรรมศาลา พระระเบียงคดและวิหารโพธิ์ลังกาด้วย

นอกเหนือจากหาดทรายชายทะเลและพระธาตุแล้ว เขายังแนะนำจำเพาะที่เขาคา เขาหลวง บ้านหนังตลุงสุชาติ ทรัพย์สิน กุฏิวัดวังตะวันตก(แต่ระบุผิดเป็นวัดเสาธงทอง) กำแพงเมืองเก่า หอพระอิศวร หอพระนารายณ์ หอพระพุทธสิหิงค์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พร้อมแผนที่ตัวเมืองนครแบบสังเขปจากมะขามชุมถึงคลองป่าเหล้า โดยมีการล้อมกรอบแนะนำพิเศษโลมาสีชมพูที่ขนอมกับบ้านหนังตะลุงพี่สุชาติไว้ด้วย

สำหรับรายละเอียดอื่น ๆ โดยเฉพาะที่หาดทรายชายทะเลของเมืองนครนั้น นอกจากคำอธิบายไม่ค่อยโดดเด่นอย่างที่อื่น ๆ ทั้งที่สมุย เสม็ด เพชรบุรี หัวหิน และตลอดชายฝั่งอันดามันแล้ว ยังอธิบยตรง ๆ ว่าสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไม่ว่าที่พัก อาหารและอื่นๆ ยังมีน้อยอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อผมลองพลิกดูหมวดที่พัก ร้านอาหารและร้านค้าที่แนะนำ มีเพียง โรงแรมแกรนด์พาร์คในตัวเมือง กับ ราชาคีรีที่ขนอม แล้วก็ร้านครัววังเดิมที่ดูเหมือนจะเลิกร้านไปนานแล้ว ในขณะที่ของที่ระลึกนั้นแนะนำเครื่องถมนครกับรูปหนังตะลุงบ้านหนังสุชาติเท่านั้น

เอาเป็นว่ายังไงก็ดีกว่าไม่มี ประเด็นอยู่ที่ว่าเราจะช่วยกันให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นกว่านี้ทั้งในหนังสือและที่เป็นจริงอยู่ทุกวันนี้บน "นครดอนพระ" ของพวกเราทั้งหลายได้อย่างไร ?

มาฆะบูชา 
๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก DK EYEWITNESS TRAVEL
ผู้สนใจกรุณาหาซื้อมาอ่านได้โดยละเอียด ใช้เที่ยวได้ทั่วประเทศ 
ดีที่สุดเล่มหนึ่ง ยิ่งกว่าหนังสือนำเที่ยวอื่นใดที่ไทยทำหลาย ๆ เล่ม

• Prev
• Next