บัญชาชีวิต

คัทธนกุมารชาดก (ฉากที่ ๓)
ออกตามหาพ่อไปได้ ๒ สมุน ไผ่ร้อยกอกับเกวียนร้อยเล่ม
แล้วผจญจี้กุ่งยักษ์

หลังจากได้ดีมีสุขอยู่ในนครศรีษะเกษ คัทธนกุมารก็ออกเดินทางหาพ่อ ภาพแสดงทรงนุ่งห่มอย่างกษัตริย์ ใช้ดาบสรีกัญไชยคู่ชีพคอนคนโฑวิเศษกับถุงย่ามลายแดงไปเจอนายไผ่ร้อยกอผู้มีพละกำลัง ลากกอไผ่ทั้งร้อยอยู่ เจ้าคัทธนกุมารเอาปลายเท้าเหยียบปลายไผ่ทำให้นายไผ่ร้อยกอโกรธจะเข้ามทำร้าย ถูกจับกดจมดินจนร้องขอชีวิตแล้วยอมเป็นข้ารับใช้ไปด้วยกัน

จากนั้นเจอนายเกวียนร้อยเล่มก็ถูกถึงจนสายขาดหัวคมำจะเข้ามาทำร้ายแล้วถูกกดจมดินจนร้องขอชีวิตแล้วมาเป็นสมุนอีกคนจนไปถึงเมืองอินทปัตนครซึ่งมีกำแพงหอคอยปราสาทราชวังแข็งแรง บ้านเมืองรุ่งเรืองโอฬาร ที่ท่าน้ำมีเรือไฟหลายชาติภาษาทั้งฝรั่ง จีน แจก แถมชักธงฝรั่งเศส กำลังทหารก็มากมายที่งพลม้าและราบ ที่กลางตลาดมีหนุ่มสาวนุ่งผ้าและเตี่ยวใส่ตุ้มหูดูดขี้โยเกี้ยวกัน ขนาดที่ทหารที่เดินสวนสนามทั้งไทยทั้งเทศยังอดเหล่ไม่ได้

พอข้ามสะพานพ้นนครอินทปัตถึงเขตหิมพานต์ขณะหยุดพักก็เจอกับจี้กุ่งยักษ์ตัวเท่าช้าง รูจุดคนได้เป็นพัน มูลดินกองปากรูเป็นภูเขา ฝุ่นคลุ้งมืดฟ้ามัวดิน นายไผ่ร้อยกอกับนายเกวียนร้อยเล่มจะเข้าไปจับเอามาทำอาหาร ถูกดีดสลบกระเด็นไปคนละทางหลายร้อยวา เจ้าคัทธนกุมารต้องเข้าไปจับเอง แล้วประพรมน้ำจากคนโฑชุบสองสมุนให้ฟื้นคืนสติ

ภาพงามของชุดนี้ซึ่งยังอยู่บนผนังด้านเหนือทั้งนั้น นิยมดูภาพเมืองอินทปัตนครที่ผมว่าน่าจะเป็นเขมรมากกว่ากรุงเทพ เพราะชักธงฝรั่งเศสหรา และถ้าเรื่องนี้พัฒนาที่ล้านช้าง ก็ต้องเป็นเรื่องของลุ่มน้ำโขงมิใช่เจ้าพระยา แถมอินทปัตนครใรตำนานอุรังคธาตุของพระธาตุพนมก็สรุปกันโดยทั่วไปว่าคือเขมรเช่นกัน นอกนั้นก็ภาพหนุ่มสาวเกี้ยวกันที่กลางตลาดตรงริมน้ำ

ส่วนภาพด้านบนขึ้นไปเป็นพระพุทธเจ้าและสาวก สองด้านตรงซอกหลังคาทำเป็นรูปพระอาจารย์สอนหนังสือให้ลูกศิษย์ทั้งสองด้าน

เท่านี้ก่อนนะครับ ยังมีใครตามอ่านอยู่ไหม 
ไหน ๆ ผมก็ขอทำจนจบนะครับ น่าจะพรุ่งนี้ครับ

• Prev
• Next