บัญชาชีวิต

คัทธนกุมารชาดก (ฉากที่ ๕)
เมื่อคัทธนกุมารได้นาง ๒ สี : สีไวและสีดา
มาเป็นคู่ครองที่ไนปั่นด้ายและด้วยการฉีกผ้านุ่งให้เป็นที่ระลึก

หลังจาก ๒ สมุนได้ครองเมืองและเมีย คัทธนกุมารก็ออกเดินทางต่อคนเดียวถึงเมือง "จำปานคร" (นี่ก็น่าสนใจ อาจหมานถึงจามปาที่ทุกวันนี้อยู่ในเวียตนามก็ได้) แล้วเข้าพำนักอยู่กับหญิงม่ายในอุทยาน แล้วไปติดใจลูกสาวเศรษฐีชื่อ "สีไว" ไปหากันจนเศกสมรส ดังรูปที่กอดรัดกันที่ไนปั่นฝ้าย มีบ่ายแอบมองอยู่อย่างน่าเอ็นดู

ขณะนั้น เจ้าเมืองจำปานครทรงออกล่าสัตว์ไปเจอกวางทองที่นางยักษ์ตนเดิมแปลงกายมาลวงจะจับไปกิน เจ้าเมืองขอไถ่ชีวิตด้วยการจะส่งคนมาให้แทนทุก ๆ วันจนนักโทษประหารหมดเรือนจำ จะส่งพลเมืองไปก็ถูกต่อต้าน จึงจำเสด็จด้วยองค์เอง พระธิดาชื่อ "สีดา" ขอแทนคุณพระราชบิดาด้วยการไปให้ยักษ์กินแทน

ข้างฝ่ายนางยักษ์ ขังเจ้าหญิงไว้ในหอรอเวลากิน แต่คืนนั้นเจ้าชายคัทธนก็เหาะไปช่วยด้วยการรื้อทำลายข้าวของกระจัดกระจาย ฝ่ายเจ้าหญิงเห็นรูปงามก็หลงไหลได้เสียกันในนั้น นางยักษ์กลับมาเจอจึงกระชากจะทำร้ายเจ้าหญิงแต่ไม่ทันเจ้าชายที่กระชากลงมานอนเหยียบคอไว้บนพื้น เมื่อนางยักษ์ร้องขอชีวิตก็ปล่อยอีก แต่คราวนี้ไม่มีของวิเศษให้ แล้วนางยักษ์ก็โขกหัวตนเองแตกตายตรงนั้น

คืนนั้นก่อนที่เจ้าชายคัทธนกุมารจะจากเจ้าหญิงสีดา ทรงฉีกผ้านุ่งมอบไว้เป็นที่ระลึก ครั้นเจ้าเมืองรู้ข่าวจึงป่าวประกาศจนสามารถนำผ้านุ่งมาต่อกันได้พอดี จึงถวายราชสมบัติพร้อมพระธิดา

ทรงครองราชสมบัติและครองรักกับ ๒ นางในพระราชวังมีลูกชาย ๒ องค์ เกิดจากนางสีไว ชื่อ "คัทธเนตร" จากพระนางสีดา ชื่อ "คัทธจัน" ท่ามกลางไพร่ฟ้าประชาชนหน้าใสชื่นบาน

รูปสุดท้ายเมื่อดูครั้งแรกไม่รู้ว่าเป็นลูกชายกำลังขี่หลังแม่ ผมตกใจแทบแย่ว่าทำไมสล่า

น่านถึงกล้าหาญวาดรูปถึงขนาดนี้

• Prev
• Next