บัญชาชีวิต

รายงานการไปถวายงานคณะสงฆ์หนกลางเมื่อเช้านี้
ที่วัดพิชยญาติการามวรวิหาร ที่คลองสานฝั่งธนฯ (ตอนที่ ๒)

ก่อนถึงเวลา ผมขึ้นไปนั่งฟังท่านเจ้าคุณจากวัดพระปฐมเจดีย์ปรารภสนทนากับเจ้าอาวาสใหม่ ด้วยเมื่อก่อนไปทวายได้เห็นข่าวไทยรัฐลงเมื่อวันพิธีเปิด ว่าเจ้าพระคุณสมเด็จท่านห่วงหลายอย่างด้วยการยกโอวาทปาฏิโมกข์มากำชับ ในขณะที่ท่านพรหมเวทีแนะว่าให้ศึกษาปฏิบัติให้มาก อย่าห่วง "ไลน์" จนเกินไป

ท่านเจ้าคุณฯ บอกว่าเจ้าอาวาสนั้นมี ๔ แบบ
๑) มีบุญวาสนา ได้ครองวัดดีมีศรัทธามหาชนอยู่แล้ว ก็ต้องบำรุงรักษาและพัฒนาต่อให้ดี
๒) มีฤทธิ์ จนผู้คนศรัทธาลักษณะต่าง ๆ เช่น หลวงพ่อคูณ หลวงพ่อเปิ่น 
๓) มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ เช่นหลวงพ่อปัญญา ท่านเจ้าคุณปยุต หลวงพ่อจริล กระทั่งสมเด็จพุทธชินวงศ์ ที่เพียงวาจาคำสอนก็มีคุณวิเศษ อย่างยิ่ง
๔)มีสังคหวัตถุ ๔ เป็นที่พึ่งพิงศรัทธานิยมของผู้คนในลักษณะต่าง ๆ

ในขณะที่ผมนั้น หลังชี้ประเด็นเรื่องรอยทางพระพุทธศาสนาที่เข้ามาจนแผ่ไปทั่วประเทศจนมีพระและวัดเต็มบ้านเมือง แล้วเมื่อลองทำสวนโมกข์กรุงเทพจนผู้คนสนใจ จนได้ร่วมกันทำวัดบันดาลใจกับ ๙ วัดนำร่อง ที่เอาสื่อหลายอย่างมาร่วมนำเสนอ โดยมีพระอาจารย์มหาสุทิตย์ เจ้าอาวาสวัดสุทธิ เมตตาร่วมบอกถึงที่ท่านทำที่วัด ด้วยพื้นฐานง่าย ๆ ๓ อย่าง คือ ทำวัดให้สะอาดร่วมรื่น แล้วยกระดับเป็นศูนย์เรียนรู้ของชุมชน จากนั้นจึงนำจิตและปัญญาให้ผู้คน โดยผมกราบเรียนว่าหากท่านใดสนใจให้แจ้งความจำนงได้ ซึ่งคณะพระภิกษุที่จัดงานได้เมตตาเชิญชวน จนมีเจ้าอาวาส ๕๕ วัด เข้ามาแสดงความจำนงเข้าร่วมโครงการวัดบันดาลใจ

ทั้งนี้ เมื่อเข้ากราบเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ท่านบอกว่าให้เอา คก.มาร่วมอยู่ในแผนส่งเสริมพระพุทธศาสนาที่ท่านเป็นประธาน และขอให้ไปช่วยทำแผนพัฒนาพุทธมณฑลที่คณะสงฆ์และรัฐบาลมอบให้ท่านเป็นประธานด้วย

นอกจากนี้ ท่านเจ้าอาวาสวัดสุวรรณาราม รองเจ้าคณะ กทม.ยังได้ตามให้ไปพูดกับคณะพระใน คก.คิลานธรรม ของคณะสงฆ์ กทม.ที่มาประชุมอยู่อีกศาลา แบบว่า พระท่านก็ทำงานกันตัวเป็นเกลียว ใครสนใจกรุณาติดตามเพื่อร่วมด้วยช่วยการพระพุทธศาสนากันนะครับ

สำหรับภาพท้าย ๆ เป็นหินสลักรอบพระอุโบสถเรื่องสามก๊กที่มีหลายตอนที่ยังบอกไม่ได้ว่าตอนไหนเนื่องจากชำรุดมากแล้วครับ

• Prev
• Next