logo_new.jpg

ตามหาวัดโยเดียและย่านสยามที่ทวาย
รวมทั้งท่าเรือน้ำลึกทวายที่ยังไม่ถึงไหน

(รายงานการไปทวาย ฉบับที่ ๕)

ภาพที่แนบเป็นภาพถ่ายจากการไปรอบที่ ๒ และ ๓
โปรดอ่านและดูที่สมบูรณ์ในบันทึกรายงานฉบับเดิม 
เติมหมายเหตุตามนี้ครับ

หมายเหตุ

๑) โดยสรุป ไม่ได้ความอะไรชัดเจนเรื่อง "สยามปิน" นอกจากรู้แต่เพียงว่าคือ "ย่านชาวสยาม" มาแต่ก่อน ตอนนี้ไม่มีความรู้อะไรหลงเหลือนอกจากชื่อ และดูเหมือนว่าจะมีหลายแห่ง ไม่เฉพาะแต่ในกลางเมืองทวายทั้ง ๒ ย่าน เพราะมีการกล่าวว่าที่วัดออกยากะโลที่เซ็นเซกก็ใช่สยามปิน แถมยังว่าธาการาหรือสัการะนครที่อายุถึงพันปีก็ใช่ด้วย ชวนให้สงสัยว่าใช่จริง หรืออะไร ๆ ปรัมปราก็ว่า "สยาม" ไปทั้งนั้น ในขณะที่ "วัดโยเดีย" ก็เหมือนกัน ที่เหลืออยู่เป็นเพียง ๑ ในร่วม ๔๐ วัดที่ว่ากันว่าล้วนสร้างบนวัดโยเดียเดิม โดยที่แทบไม่เหลือร่องรอยอะไรมาก นอกจากที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์วัดพยาจี

๒) ในการไปครั้งที่ ๒ กับคณะนักโบราณคดีฝรั่ง ไม่ได้เข้าไปตามรอยทั้งวัดโยเดียและสยามปินเลย แต่การไปครั้งที่ ๓ เลือกนำไปเพียง ๓ วัดในตัวเมืองทวาย คือ วัดทอง วัดกลางเวียง และ วัดโยเดีย โดยนำของและปัจจัยไปถวาย เฉพาะวัดกลางเวียง ท่านเจ้าอาวาสได้ต้อนรับวิสาสะกันตามสมควร เมื่อถามถึงรอยไทย ท่านก็บอกว่าไม่ทราบ ส่วนจารึกที่ฐานเจดีย์ย่อมุมนั้น ท่านบอกว่าเป็นจารึกมาษามอญ มิใช่ไทย

 

๓) ส่วนท่าเทียบเรือนั้น ในการไปครั้งที่ ๒ ได้เลยไปจนถึงบริเวณ กม.๐ ของท่าเรือน้ำลึกที่ยังไม่มีอะไรนอกจากหลักกิโล ๐ ศาลาและแผนที่บอกไว้ กับร้านค้าและอาหาร (ซึ่งอยู่ริมทะเลทางตอนเหนือไปจากทวายหลายสิบกิโลเมตร) จึงไม่นำคณะไปในครั้งที่ ๓ เพราะทั้งไกล เสียเวลา รวมทั้งถนนก็ยังแย่มาก ๆ ให้เวลากับท่าเรือริมแม่น้ำใกล้ตัวเมืองซึ่งมีบรรยากาศสวยกว่ามาก โดยเฉพาะเมื่อพระอาทิตย์ตก ส่วนท่าเทียบเรือทวายสมัยโบราณนั้น ได้ข้อมูลมาว่าอยู่ใกล้ปากแม่น้ำลงไปทางใต้อีกประมาณ ๘๐ กิโลเมตร

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

v

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Joomla templates by a4joomla
rtp slot https://www.sidiap.org/rtp-live-slot//