logo_new.jpg

83th Anniversary Another Dharma Leader
๘๓ ปี สศษ. อีกแม่ทัพธรรม ผู้แข็งขัน
ร่วมกับท่านอาจารย์ที่สวนโมกข์

เมื่อวานนี้พี่ชายผมไปดูละครที่ท่านอาจารย์แสดงเอง
เช้านี้ อ.อ้าย อีกกัลยาณมิตร กราบท่านอย่างที่ขอเอามาส่งต่อ

ส่วนผมเองนั้น นิยมงานอาจารย์มาตั้งแต่เด็กน้อยเพราะที่บ้านมีวิทยาจารย์และสังคมศาสตร์ปริทัศน์อย่างไม่น่าเชื่อ พอเติบโตก็ติดตามและรับเป็นหนึ่งใน "ตัวแบบ" แม้เมื่อเปิดนาคร-บวรรัตน์ แล้วอะไรต่อมิอะไรก็ได้รับเมตตาจากอาจารย์สารพัด จนจับพลักจับผลู ถูกตามเข้าไปอยู่ในวงเวียนของมูลนิธิโกมลคีมทอง ก็เลยเวียนวนกันอยู่ถึงทุกวันนี้ แม้อาจารย์จะวางมือไปหลายเพลาแล้ว

ที่สำคัญงานสวนโมกข์ที่กรุงเทพ ท่านบอกผมว่าให้เป็นหน้าที่ของพวกผม
ตอนจะครบ ๑๐๐ ปี ท่านอาจารย์ อาจารย์ยังบอกว่าหน้าที่หมอ โดยเฉพาะการเสนอชื่อยูเนสโก ซึ่งตอนนั้นก็กะว่าน่าจะให้ มอ.เป็นผู้เสนอ แต่ทำไปทำมา อ.บอกว่า ดูท่าจะไม่สำเร็จ ผมจึงกราบนิมนต์อาจารย์ ซึ่งท่านก็เสกสำเร็จ โรงเรียน สศษ. อย่างที่เสกมาแล้วนับไม่ถ้วน

ที่ผมชอบมาก ๆ และ เล่าถึงอาจารย์เป็นกรณีศึกษาเรื่อย ๆ ในฐานะ "บุคคลต้นแบบหนึ่งของผม" ขอบอกต่อเพื่อคารวะวันนี้ สัก ๒ เรื่อง

๑) เมื่อสมโภชอายุเท่าไหร่จำไม่ได้ ๖๐ หรือ ๗๒ ปีจำไม่ได้ มีการเสวนาใหญ่ที่ผมอยู่ตลอดงาน จำไม่ได้อีกเหมือนกันว่าใครเป็นผู้เสนอว่า คุณูปการของ สศษ.คือการเป็บปูชนียบุคคลที่สี่แยก กล่าวคือใคร ๆ ก็ต้องผ่าน แต่ยากที่จะอยู่ด้วยได้นาน ผมเองก็อาจจะเข้าข่ายในลักษณะนั้นครับ

๒) เมื่อพุทธชยันตี ๒๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ รัฐบาลอินเดียให้ Asoke Mission จัดชุมนุมสัมมนาชาวพุทธทั่วโลกที่นครเดลี แล้วผมถูกเชิญไปร่วมด้วย วันเดินทางที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะกำลังไปถึงและจะเช็คอิน ท่านอาจารย์ก็มาถึง ต่อด้วยทัตตชีโวและคณะก็มาไล่เลี่ยกัน สศษ.ไม่รอช้า เดินเข้าไปทักทายโอภาปราศรัยอย่างองอาจดังลั่นว่า "เที่ยวนี้มี...ร้ายไปกับเราด้วย" ทำเอาคณะนั้นค่อย ๆ ปลีกหลีกไปเช็คอินเคาน์เตอร์อื่นทันที

กราบ สศษ.ขอรับ

 

 

 

 

 

Somrit Luechai
วันนี้ครบรอบวันเกิดปีที่ 83 ของอาจารย์สุลักษณ์ ศิวรักษ์หรือ ส.ศิวรักษ์ บุคคลที่ผมชื่นชมในเรื่องความรู้และความกล้า ผมอ่านงานของอาจารย์และเก็บสะสมหนังสือของอาจารย์ไว้เป็นหมวดหนึ่ง ปีที่อาจารย์เกิดนั้นตรงกับเหตุการณ์กบฏบวรเดช และดูเหมือนว่าอาจารย์จะได้มรดกการเป็นกบฏตั้งแต่นั้นมา อาจารย์เป็นทั้งผู้กระทำและผู้ถูกกระทำในเหตุการณ์บ้านเมืองครั้งสำคัญๆ บางเรื่องบางเหตุการณ์ผมเคยได้ยินผู้ใหญ่พูดกันว่า"เรื่องนี้ต้องคนอย่างอาจารย์สุลักษณ์เท่านั้น" แน่นอนคนอย่างอาจารย์ก็ใช่จะสมบูรณ์ดีงามไปเสียทุกอย่าง ถ้าใช้สำนวนแบบอาจารย์ก็คือ"กึ่งดิบกึ่งดี"นั่นแหละครับ แต่ถ้ามองภาพรวมแล้วคงปฏิเสธไม่ได้ว่าอาจารย์สุลักษณ์"มีคุณมากกว่ามีโทษ" ครั้งหนึ่งอาจารย์ชมผมว่า"อ้าย(นามที่อาจารย์ใช้เรียกผม)เท่าที่รู้จักมา เป็นคนที่ดีไปเสียทุกอย่าง" ผมสะดุ้งต่อคำชมแล้วรีบเตือนอาจารย์ว่า"อาจารย์รู้ไหมครับว่าอาจารย์กำลังเกิดมิจฉาทิฐิ" อาจารย์ฟังแล้วก็หัวเราะ เมื่อตอนอาจารย์มีอายุครบ80ปี ผมบอกอาจารย์ว่า"อาจารย์มีบุญมากที่มีอายุเท่าพระพุทธเจ้า" อาจารย์รีบปฏิเสธแล้วเตือนผมว่า"อย่าเอาผมไปเปรียบกับพระพุทธเจ้า" อาจารย์ไม่หลงกลผม ถ้าเป็นคนอื่นคงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปแล้ว ในวาระครบรอบวันเกิดของอาจารย์ ผมขอภาวนาให้อาจารย์อยู่ทนแดดทนฝนไปอีกนาน อย่างน้อยก็อยู่จนกว่าจะยกเลิกมหาเถรสมาคมได้สำเร็จ ขอคารวะอาจารย์ด้วยเศียรเกล้า ครับ
 
 
 
 

 

Joomla templates by a4joomla
rtp slot https://www.sidiap.org/rtp-live-slot//