บัญชาชีวิต
- Details
- Written by Super User
- Category: คุยกับหมอบัญชา
- Published: 03 April 2016
- Hits: 1217
ThrowAway Orchid in USA, From Myanmar to Thai&China
จากพม่ามาไทยไปอเมริกา
กับปรากฏการณ์ "โยนทิ้งกล้วยไม้" ที่ไทยกับไต้หวันคือตัวการ (Part 2)
หลายท่านคงยังไม่สุดกับ "โยนทิ้งกล้วยไม้ในอเมริกา"
แต่ผมขอเล่าต่อไปเรื่อย ๆ ก่อนนะครับ
ตอนคุณประยูรขึ้นพูดเพื่อเล่ากรณีศึกษาถึงอนาคตการพัฒนากล้วยไม้เมืองไทย จากประสบการณ์ตรงของ "ประยูรออร์คิดส์" ก็ออกตัวเลยว่าขออภัยคุณโรเบิร์ต เบ็นเน็ธ เช่นเดียวกับอาจารย์จากไต้หวัน ที่ออกตัวทำนองเดียวกันว่า "ก็ไทยกับไต้หวันนี่แหละคือตัวการ"
คุณประยูรเริ่มด้วยวลีเด็ด "เพราะผมเป็นนักธุรกิจ"
ไลน์การผลิตก็ง่าย ๆ รับ "พันธุ์" จากลูกค้า เอามาขยายหลายร้อยพันหมื่นเท่าด้วยวิธีการ "เพาะเนื้อเยื่อ" จนกล้าแข็งแรงดีพอ "ก็ส่งกลับ" ให้ลูกค้าเอากลับไปขาย ไม่มีอะไรมากกว่านั้น
ที่รับทำมากขณะนี้ เท่าที่ผมจำได้ก็ ฟาแลน กับ แกรมมาโต โดยฟังว่าน่าจะเป็นรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของโลก ส่งออกทั่วประมาณปีละเป็นร้อยล้านต้น ด้วยระบบห้องปฏิบัติการพิเศษที่เหนือกว่าใครทั้งหมด เพราะถูกที่สุด กล่าวคือมีเทคนิคห้องมืดแบบพิเศษ กับเทคนิดยืดลำต้นที่ไม่เหมือนใคร ไม่ก่อให้เกิดการกลายพันธุ์ แถมยังพัฒนาระบบขนส่งพิเศษที่ไม่ต้องง้อ Air Cargo ที่ทั้งแพงและหาพื้นที่ได้ยาก มาใช้ Sea Cargo ไปได้ถึงบราซิลใน ๔๕ วัน โดยผลผลิตยังมีคุณภาพเยี่ยม และลดต้นทุนการขนส่งจากขวดละ ๗ เหรียญ เหลือ ๗๐ เซนต์ !!!!!
ทั้งนี้ยังมีปฏิบัติการพิเศษที่อเมริกา ที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ "ทิ้งกระถางกล้วยไม้" จนคนรักกล้วยไม้อเมริกาเจ็บกระดองใจ ยกมาฟ้องกลางวงประชุม
คุณประยูรเล่าว่า แต่ก่อนตลาดหลักอยู่ที่ญี่ปุ่น จนเศรษฐกิจอืดและตลาดไม่โต ก็พอดีมี "ผู้ค้าไม้ตัดดอกรายใหญ่ในอเมริกา" เบื่อกิจการ ไปปรึกษาทางญี่ปุ่นว่าจะทำอะไรดี สนใจกล้วยไม้ จนญี่ปุ่นแนะนำห้รู้จักกับคุณประยูร ซึ่งตอนนั้นก็ข้องใจว่าทำไมในยุโรปอเมริกาจึงบ้ากล้วยไม้ทั้ง ๆ ที่แสนแพง ฟาแลนกระถางหนึ่งถึง ๑๐๐ เหรียญ หากสามารถทำได้ที่ ๑๐ เหรียญอะไรจะเกิดขึ้น จึงได้เริ่มแล็ปที่เมืองไทยจนได้ผล และเขาสนใจสั่งไม้ขวดจากคุณประยูรไม่อั้น แต่คุณประยูรไม่เอา บอกว่าขอไปตั้งห้องแล็ปที่แคลิฟอร์เนียเสียเลย เพื่อลดต้นทุนการขนส่ง ซึ่งถึงทุกวันนี้ รายนี้กลายเป็นผู้ค้ากล้วยไม้กระถางรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งในอเมริกาและยุโรป
ด้วยเหตุนี้เอง ที่ทำให้กล้วยไม้ในยุโรปอเมริการวมทั้งที่ไหน ๆ ซึ่งแต่ละต้นแสนแพง ต่างต้องประคบประหงมกันใหญ่ กลายเป็นไม้กระถางแสนถูก (บางทีถูกกว่าซื้อช่อดอกด้วยซ้ำ) พอดอกเหี่ยวก็ทิ้งทั้งกระถาง หาซื้อมาวางใหม่ได้สวยสะดวกกว่าเยอะ
นี่แหละครับ ปรากฏการณ์ "โยนทิ้งกระถางกล้วยไม้" ที่ไม่เฉพาะในอเมริกากะยุโรป ตอนนี้ที่ไหน ๆ แม้เมืองไทยก็เป็นไปทั้งนั้นแล้ว
ท้ายการเสวนา ทางพม่าถามว่าจะขอสั่งปั่นตาให้บ้างได้ไหม
คุณประยูรตอบว่า ผมเป็นนักธุรกิจ ที่ไหนเป็นโอกาสและศักยภาพสูง ผมไปแน่ และพม่านั้นใช่
รอดูกันต่อไปนะครับว่ากล้วยไม้เพื่อมวลมนุษย์นี้จะลงเอยอย่างไร ในที่สุด โดยเฉพาะในพม่าที่น่าห่วง
ส่วนอเมริกาช่างบ่นเมื่อเสียท่านั้นช่างเขาเถิด