เพื่อแผ่นดินเกิด
- Details
- Written by Super User
- Category: เพื่อแผ่นดินเกิด
- Published: 03 December 2016
- Hits: 1409
Oh Flood Again @ MuangNakorn
อ้า..เอ้อ... น้ำท่วมหล่าว...เมืองคอน...เหอ.....
(bunchar.com เพื่อแผ่นดินเกิด 20161203_4)
อยู่เมืองนครมาจะ ๖๐ ปีนี่แล้ว
ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านน้ำผ่านฝนมาก็จะ ๖๐ รอบแล้ว
ถามว่าน้ำท่วมใหญ่มากี่ครั้งหน ?
ปี ๐๕ มหาวาตภัยถล่มทั้งเมืองและตะลุมพุก
เกิดมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ที่พระเจ้าอยู่หัว ริเริ่มออกอากาศรับบริจาคจากทั่วประเทศเพื่อส่งลงมาช่วยเมืองนครจนออกมาเป็นมูลนิธิใหญ่ทำอะไรอีกสารพัด
ปี ๑๘ จำได้ว่ามีพายุโซนร้อนพัดผ่านจนน้ำท่วมใหญ่ทั้งเมือง แล้วเกิดเหตุน้ำผึ้งหยดใหญ่เมื่อทางการบริหารจัดการภาวะฉุกเฉินไม่ได้ดีพอ ก่อเกิดเป็นความไม่พอใจ ลงเอยด้วยการบุกเผาจวนผู้ว่าราชการจังหวัด
ปี ๓๑ ขณะที่ผมทำงานอยู่เทศบาลเมืองนคร มีร่องความกดอากาศต่ำกำลังแรงพาดผ่านหลายวัน ฝนจึงถล่มลงมาเต็มพื้นที่ทั้งเมือง ๓ วัน ๑,๐๐๐ กว่า มม.ไหลหลากแรงลงมาจากเขาแล้วคั่งค้างอยู่แทบทุกหย่อมของเมืองนคร ครั้งนั้น ลงเอยด้วยการประกาศปิดสัมปทานป่าไม้ทั่วทั้งประเทศไทย มีปฏิบัติการความร่วมไม้ร่วมมืออาสาสมัครทั้งประเทศอย่างกว้างขวาง เกิดโครงการพระราชดำริเพื่อแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ แต่ดูเหมือนว่าได้รับการสานต่อไม่ครบทั้งระบบจนกระทั่งวันนี้ ที่ตลอดมาน้ำก็ท่วมท้นเป็นระยะ ๆ เรื่อยมา
ในฐานะคนโดนน้ำท่วมเรื่อย ๆ และเมื่อสร้างบ้านครั้งหลังสุด เลือกไม่ถมที่เพื่อแย่งน้ำ แต่ยกพื้นใต้ถุนให้สูงไว้ เว้นแต่น้ำจะท่วมทั้งเมืองอย่างปี ๓๑ อีกก็ยอม เพราะไม่เช่นนั้นบ้านคงอยู่บนหอ ประกอบกับคาดว่าการปรับปรุงและพัฒนาของรัฐและท้องถิ่นน่าจะดีขึ้นตามลำดับ ประกอบกับมีการสร้างถนนและคันกั้นน้ำพร้อมขุดลอกคลองระบายน้ำใหม่หลายสาย จนที่บ้านนั้นน่าจะไม่ถูกท่วมท้นสูงเกือบ ๒ เมตรอย่างเมื่อปี ๓๑ ที่ถนนหน้าบ้านกลายเป็นสายคลองที่น้ำเชี่ยวกราก หากจะเข้าบ้านต้องเกาะประตูตึกแถวตรงข้าม แล้วตั้งมุมว่ายน้ำมาเกาะยอดกำแพงเพื่อข้ามเข้าไปว่ายต่อจนถึงบ้าน
ก็พบว่ายังไม่น่าไว้วางใจนัก แถมบ้านอื่น ๆ ที่อยู่ตามตรอกซอย โดยเฉพาะระหว่างถนนสายหลักที่ทำตัวเป็นเขื่อนขวาง ทั้งราชดำเนิน และ พัฒนาการคูขวาง ที่ทุกวันนี้มีเฉลิมพระเกียรติ กับเลียบทางรถไฟเข้ามาเพิ่ม ทำท่าว่าจะหนักหน่วงจากระบบระบายและสายคลองที่แคบลงแถมตื้นเขินขึ้น จนน้ำไม่รู้ว่าจะไปได้ทางไหนจึงจะทันปริมาณ มิหนำซ้ำทุ่งท่าลาด และทุ่งอื่น ๆ ที่เคยทำหน้าที่เสมือนแก้มลิงตามธรรมชาติก็หมดสภาพตามการใช้สอยของเมืองมากขึ้น ๆ
เท่าที่จำได้ เมื่อปี ๓๑ น้ำถึงเพียงสี่แยกท่าวัง และสี่แยกประตูลอดตรงหน้าศาลจังหวัด แต่ไม่ถึงที่ดอนพระธาตุ-หาดทรายแก้ว
ส่วนปีนี้ที่มีการสร้างคลองระบายน้ำที่ท่ามอญต่อไปท่าซักเสร็จแล้วนั้น จะบรรเทาขนาดไหน ?
สำหรับท่อลอดใต้ถนนที่ขุดไว้มากมายแถบในเมืองนั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นอย่างไร ?
จากปริมาณฝนที่ตกมา ๒ วันนี้ที่ยังไม่มากเท่า
หวังว่าน้ำจะไม่ท่วมใหญ่อย่างที่เคยนะครับ.
๓ ธค.๕๙