เพื่อแผ่นดินเกิด
- Details
- Written by Super User
- Category: เพื่อแผ่นดินเกิด
- Published: 11 February 2017
- Hits: 1261
มาฆบูชาที่เมืองนคร...ของคนนคร ?
Muang Nakorn’s MaKhaPuja
(bunchar.com เพื่อแผ่นดินเกิด 20170211_3)
ปีนี้ ผมไม่ได้ร่วมมาฆบูชาที่เมืองนครครบทั้งงาน กว่าจะได้ถึงพระธาตุก็เกือบ ๓ ทุ่ม ซึ่งฝนตก ๆ หยุด ๆ มาทั้งวัน จะแวะเอาหนังสือถวายท่านพระครูสิริฯ ก็ปิดกุฏิแล้ว ในขณะที่ทั่วบริเวณเต็มไปด้วยรอยคนเข้ามาใช้จนเลอะไปทั่วแทบทุกตารางนิ้วโดยที่หน้าลานจอดรถก็เต็ทไปด้วยร้านค้าที่เปิดเสียงสนั่นลั่นไปหมดแบบไม่เกรงใจพระ-เจ้า ในขณะที่เขตพุทธาวาสตรงลานทรายที่ยังมีคนมาเวียนเทียนและถ่ายรูปกันอยู่ไม่น้อย ก็มีโต๊ะขายดอกไม้และอื่น ๆ มาวางรายทาง แถมมีคนมาเล่นกีต้าร์ร้องเพลงด้วย
ที่หน้าประตูเหมรังสีทางเข้าพระวิหารคดที่ทำเป็นแท่นวางผ้าพระบฏนั้น มีผ้าบูชาห่มพระธาตุเป็นกองพะเนิน พอพ้นถึงหน้าพระวิหารหลวงที่มีผู้คนกำลังถ่ายรูปอยู่หนาแน่นหลังจากเวียนเทียนรอบแล้วนั้น เสียงเพลงรำวงเวียนครกจากในวัดหน้าพระบรมธาตุก็สนั่นลั่นลอดเข้าไปถึงในพระวิหารหลวงที่พระ-ผู้คนกำลังสวดมนต์ภาวนากันอยู่อย่างไม่เกรงใจกันเลย
ถึงจังหวะนี้ ผมเองเข้าใจพระท่านได้เลยว่าคิดอย่างไร คงจะต้องยอมคนนครทั้งหลายที่ใช้วัดกันอย่างนี้มานานเนิ่น พร้อมกับคิดถึงอีกพระธาตุที่นครพนมที่ก็กำลังมีงานบูชาพระธาตุอยู่ตอนนี้เป็นงานใหญ่มาก ๆ ซึ่งไม่เคยไปร่วม แต่ท่านเจ้าคุณบอกว่าอยากให้พวกเราไปจัดงานปฏิบัติบูชาแยกเป็นอีกงาน จนออกมาเป็นงานปฏิบัติบูชาประจำปีมาได้หลายปี จนตอนนี้กำลังลงตัว และพระธาตุพนมก็กำลังจะยื่นเข้ากระบวนการมรดกโลกที่อาจจะไปได้เร็วกว่าพระธาตุเมืองนครก็เป็นได้
อันที่จริง ผมก็มีส่วนไม่น้อยกับงานมาฆบูชาที่พระธาตุนคร เมื่อตอนปี ๒๕๓๐ ที่ยังเป็นงานมาฆะ-แห่ผ้าแบบบ้าน ๆ และทางจังหวัดยังไม่ได้เข้าไปมีส่วนอะไรมาก ผมนี้แหละที่แนะนำให้ยกระดับเป็นอีกงานนอกจากเดือนสิบ ด้วยนำวาระ ๖๐ พรรษาพระเจ้าอยู่หัวมานำ เรียกว่างาน “แห่ผ้าขึ้นธาตุถวายราชสักการ” ที่เริ่มการขอผ้าพระราชทานกันมาแต่นั้น อีกครั้งก็เมื่อร่วมกับ ททท.ชมรมรักบ้านเกิด ม.ราชภัฏ ชวนเทศบาลสมัยนายกสมนึก ยกระดับเป็นงาน “มาฆะบูชา แห่ผ้าขึ้นธาตุนานาชาติที่เมืองนคร” ที่ระเบิดเถิดเทิงอยู่ระยะหนึ่ง จนคณะเทศบาลชุดใหม่เข้ามาแล้วไม่เอาด้วย ก็เลยหงอย ๆ แล้วปีที่แล้วไม่รู้เหมือนกันว่าใครเป็นเจ้าภาพ จัดอีกงานใหญ่มีแสดงแสงสีเสียงอย่างอลังการที่หน้าศาลากลางพร้อมกับนิทรรศการและร้านโรงหรูหรา โดยปีนี้ย้ายไปจัดอย่างโอ่โถงที่สนามหน้าเมือง ข่าวว่าเมื่อวานนี้คนแน่นมาก แต่วันนี้คนน่าจะไปวัดกันหมดจนโหวงเหวงมาก หน้าโรงหนังมีคนนั่งดูอยู่ ๔ – ๕ คน ส่วนที่เวทีแสงสีเสียงที่ตั้งเก้าอี้ไว้เพียบเป็นพันนั้น น่าจะมีคนนั่งอยู่ไม่กี่สิบอย่างน่าเสียดายงบประมาณที่ทุ่มมหานครเอ็นเตอร์เทนเม้นท์มาทำ
สรุปว่างานนี้ ผมบอกไม่ค่อยถูกครับ.
แต่ว่างานวันที่ ๑๔ ที่หลวงพ่อสุรศักดิ์ จากวัดมเหยงคณ์ อยุธยา จะมาสอนสมาธิภาวนาที่ทุ่งท่าลาดนั้น ดีแน่นอนครับ คนนครไปกันให้ได้นะครับ
๑๑ กพ.๖๐
