logo_new.jpg

คือคน...หลงรัก(ษ์)ป่าวังหีบ
The WangHeeb Lovers
(bunchar.com เพื่อแผ่นดินเกิด 20170525_1)

ตอนแรกพวกเรากะว่าน่าจะได้เดินไปตั้งแต่ที่หัวสะพาน
แต่ "ตาดำ" ที่มารับบอกว่าไปรถได้จนถึงที่ทำการชุมชนซึ่งตั้งเป็นสำนักงานการท่องเที่ยงเชิงนิเวศน์ จึงนั่งกะบะแบบผิดกฎหมายใหม่ไต่ขึ้นเขาจนถึงที่ และได้เห็นว่าจากปากช่องที่หัวสะพานนั้น ในนี้คือวงเขารูปเกือบวงแหวนหรือไม่ก็เกือกม้า ไม่ต่างจากที่ "คีรี-วง" ที่ผมถามว่าขนาดสักเท่าไหร่ ? ใครรู้ ? มีเสียงหนึ่งบอกว่า "ได้ยินว่า ๙ พันไร่ครับ" แต่ผมสงสัยว่าไม่น่าจะใช่ เพราะดูกว้างใหญ่กว่าวลัยลักษณ์ หมื่นกว่าไร่ ที่ผมเคยเข้าไปปลุกปล้ำ

สภาพแรกเห็นก็เป็นสวนปลูกใหม่แทบทั้งหมด มีไม้เดิมหรือที่เพิ่งเติมใหม่อยู่ประปราย แถมยังมีกองตรวจสอบคุณภาพน้ำยางเพื่อซื้ออยู่ด้วย โดยมีร้านค้าหนึ่งที่ทำเป็นสำนักงานการท่องเที่ยวของชุมชนที่ขึ้นป้ายไว้ว่า "หลง รัก ป่าวังหีบ" ปลูกพุทธรักษาหลายสีไว้รายรอบ ผมชอบมาก ทั้งช่อ ดอก สี โดยเฉพาะชื่อ แต่เสียดายไม่มีการส่งเสริมและใช้กันให้สมชื่อ อาจจะเพราะเปราะบาง ร่วงโรยง่ายและไม่ค่อยทน

ชาววังหีบให้ทุกคนลงทะเบียนอย่างเป็นระบบดีทีเดียว โดยผมนั้นเห็นกอกุหลาบสีส้มสวยอยู่ตรงนั้น ก็ไม่รู้ว่าเที่ยวนี้ "จะกูหลาบหรือไม่ ?"

ตลอดทางเดินที่ผมเลือกประกบ "นายตาดำ" คนนำทาง พยายามถามว่า "ชื่อวังหีบนี้ มีที่มาอย่างไร ?" ก็ไม่ได้คำตอบ จึงสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นวังที่มีอะไรมา "หีบ" หรือ "กระหนาบ-ขนาบ" อยู่สองด้าน เช่น มีวังน้ำที่อาจถูกสองแขนของวงเขามา "หนีบ" อยู่อย่างที่เราเห็นตามสภาภูมิศาสตร์

กระทั่งกลับลงมาถึงที่เดิม แล้ว "ตาดำ" บอกให้แวะกินกาแฟกันก่อนนั้น จึงได้พบกับหลาย "คนวังหีบ" ที่ขี่รถผ่านมาแล้วถูกเรียกมาตอบให้ ได้ความเบื้องต้นเท่าที่จำได้โดยไม่ได้จดอย่างนี้ครับ

...ตรงนี้ชื่อจริงว่าบ้านปลายคลอง ที่หัวสะพานชื่อบ้าน..(จำไม่ได้).. ล่างลงไปจึงจะชื่อวังหีบ ลงไปอีกหน่อยมีวัด..(จำไม่ได้อีกแล้ว อะไรแก้ว ๆ นี่แหละ)..

...เท่าที่ได้ฟังพ่อแม่คนแก่เฒ่าเล่ามา บอกว่าเหนือน้ำขึ้นไปมีพ่อเฒ่า..(จำชื่อไม่ได้)..มีสมบัติมาก แถมมีลูกสาวสวย ได้เก็บสมบัติข้างของพาลูกสาวลงมาตามคลองเพื่อไปตั้งเรือนจะได้มีเขยที่ตอนล่าง แต่ว่ามาเรือล่มจมที่ตรง "วังหีบ" ซึ่งเล่ากันว่าวันดีคืนดีจะเห็นมี "หีบสำดำ" ขึ้นมาลอยวน...

ผมถามว่าแล้วมีอะไรอื่นอีกไหม ทั้งที่ในวังและที่อื่น ๆ คำตอบที่ได้คือ "ไม่มี แต่ว่าพบพระกับเหรียญ แต่ตอนนี้ไม่อยู่ที่นี่" ผมจึงบอกว่าถ้ายังไงช่วยถ่ายรูปให้ดูได้ไหม จะได้ช่วยกันดู ไม่ต้องบอกว่าของใครและอยู่ที่ไหน ไม่ต้องการเอาไป ขอให้คนวังหีบรักษากันเอาไว้เองนั่นแหละดีที่สุด

พอถามต่อว่าแล้วมีเส้นทางเดินข้ามเขาไปฝั่งตะวันออกช่องไหนบ้างไหม ? ได้รับคำตอบว่า

๑) เพื่อพ่อผมเคยเดินหลงมาจากลานสะกาสองคนจนถึงที่ปลายคลองเท่านั้น
๒) เวลาผมออกพราน ก็ไปทางปลายคลองนี้จนถึงสันเขาแล้วข้ามไปได้ ๒ ทาง ปละซ้ายที่บ้านนาตีนเขาธง ปละขวาก็เขาแก้วลานสะกา

จึงขอสรุป ณ ที่นี้ว่า ไม่น่าจะมีเส้นทางเดินผ่านสำคัญใดมาแต่สมัยก่อน น่าจะเป็นเพียงทางพรานหรือทางหลงที่ยากต่อการเดินทางขนสินค้าข้ามใด ๆ

สำหรับผมนั้น หลง-รัก(ษ์) ป่าวังหีบแค่ไหน ไว้ค่อย ๆ บอก แต่คนที่นั่นนั้น แน่นอนนักว่า "เขารัก(ษ์)" มาก ๆ แน่นอนครับ.

ดูหน้าดูตา ดูท่าดูทางเอาซิครับ
โดยเฉพาะตอนที่ "ตาดำ" ขึ้นไปยืนจังก้าอยู่บนหนานหินให้ผมถ่ายรูปกันน่ำตกหนานปลิวนี้.

๒๕ พค.๖๐

Joomla templates by a4joomla
rtp slot https://www.sidiap.org/rtp-live-slot//