เพื่อแผ่นดินเกิด
- Details
- Written by Super User
- Category: เพื่อแผ่นดินเกิด
- Published: 01 June 2017
- Hits: 1465
แล้ว รัชกาลที่ ๖ ? อยู่นครเป็นเดือน !!! เมื่อ ๑๐๐ ปีก่อน
King Rama 6 Monthly Stayed !!! A Century Ago
(bunchar.com เพื่อแผ่นดินเกิด 20170530_9_1)
พระองค์เสด็จครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.๒๔๕๓ เมื่อเป็นมกุฎราชกุมาร จากนั้นเสด็จอีก ๒ ครั้ง พ.ศ.๒๔๕๘ และ ๒๔๖๐ มีจดหมายเหตุดังนี้
ครั้งแรก พ.ศ.๒๔๕๓ ประทับระหว่างวันที่ ๒๔ - ๒๙ พฤษภาคม ร.ศ.๑๒๘ เป็นจดหมายเหตุพระนิพนธ์ ลงวันที่ ๒๕ ว่า
"...เสด็จตรงมาตามถนน ผ่านหน้าวัดพระบรมธาตุเลยมาออกทางประตูไชยด้านเหนือ มาที่พลับพลาซึ่งตั้งอยู่ที่หน้าเมือง ระยะทางจากศาลามีไชยมา ๑๕๐ เส้น พระศิริธรรมมุนีกับพระสงฆ์ผู้ใหญ่สวดรับเสด็จอยู่ที่ข้างเกย ได้ตรัสกับพระศิริธรรมมุนีพอสมควรแล้วเสด็จสู่พลับพลา พลับพลานี้ทำเป็นเรือนไม้จริง หลังคามุงกระเบื้อง ฝีมือช่างไทย ทำดีน่าสรรเสริญ ตอนข้างหน้ามีท้องพระโรงดูเข้าทีดี แต่เข้ามาข้างในเสียใจ คือรูปเรือนไม่เป็นนักเลงเลย ดูซื่อไปหมด พลับพลานี้ได้ทำขึ้นตั้งแต่ศก ๑๑๙ แต่หลังคาเดิมมุงจาก พึ่งมาแก้ไขเป็นมุงกระเบื้องเมื่อเร็ว ๆ นี้..."
ครั้งที่สอง พ.ศ.๒๔๕๘ ประทับที่เมืองนครระหว่างวันที่ ๖ - ๒๗ กรกฎาคม เป็นจดหมายเหตุของสักขี พระยาศรีวรวงษ์ ปลัดทูลฉลองกระทรวงมุรธาธร โดยทรงประทับที่ "ค่ายหลวง" มีตอนหนึ่งระบุว่า
"...วันเสาร์ที่ ๑๐ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๕๘ เวลาบ่ายเกือบ ๕ โมง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเครื่องสนามเสือป่า ผู้บังคับกองพันพิเศษกรมมณฑลนครศรีธรรมราช เสด็จจากค่ายหลวงทรงเยี่ยมเยียนกองเสือป่า กรมมณฑลนครศรีธรรมราชซึ่งมาชุมพลในการรับเสด็จ ตั้งที่พักอยู่ในวัดประตูขาวใกล้เขตรค่ายหลวงด้านเหนือ ที่พักเปนโรงไม้มุงจากยกแคร่ขึ้นสองข้าง เปนที่อยู่หลับนอน..."
"...วันอังคารที่ ๒๐ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๕๘ เวลาบ่าย ๔ โมง มีการแข่งขันฟุตบอล์ที่สนามสโมสรเสือป่าน่าค่ายหลวง..." โดยตลอดระยะเวลาที่ประทับนี้นอกจากการแข่งกีฬา ยังมีกิจกรรมการออกท้องพระโรง การละเล่น ละคร ให้ประชาชนได้ชมตลอดอีกด้วย ทั้งนี้ทรงเสด็จเงียบไปประทับแรมที่ทุ่งสงด้วย
ครั้งที่สาม พ.ศ.๒๔๖๐ ระหว่างวันที่ ๔ - ๑๖ พฤษภาคม จดหมายเหตุของสักขี ระบุไว้ว่า
"...เสด็จสู่พลับพลาที่ประทับแรมใกล้กำแพงเมืองนครศรีธรรมราชซึ่งเปนที่ประทับเดิม...ข้าราชการที่ตามเสด็จได้มีที่พักในบริเวณพลับพลาค่ายหลวงแลได้รับความรับรองเลี้ยงดูทั่วถึงสมบูรณ์ทุกชั้นทุกเหล่า ผู้ที่เคยตามเสด็จคราวก่อนมีความรู้สึกเหมือนได้เข้าสู่ที่เคยอยู่อู่เคยนอนมาแต่ก่อน..." ซึ่งมีกิจกรรมต่าง ๆ ในลักษณะคล้ายครั้งก่อน โดนทรงเสด็จประทับที่น้ำตกกะโรมอีกด้วย และสักขียังได้จดหมายเหตุด้วยว่า "...การแต่งพลับพลารับเสด็จในมณฑลปักษ์ใต้สมัยใหม่นี้ นอกจากพลับพลาทรงงาน พระราชพิธี ไม่มีใช้ผ้าขาวผ้าแดงเลย ใช้ไม้แลใบไม้ของป่าทั้งสิ้น เปนแต่บางแห่งทำประณีตบางแห่งทำไม่สู้ประณีต แต่ในมณฑลนครศรีธรรมราชนี้ ทำโดยประณีตทุกแห่ง ใบไม้กรุผนังจะให้สดได้เพียงใดแลจะให้เรียบได้เพียงใด ได้ใช้ความพยายามอย่างที่สุด และจะให้เปนที่สบายได้เพียงใดได้เอาใจใส่อย่างที่สุด เช่นรู้ทางลมทางแดด มีพาไลแลกันสาดป้องกันแดด ฝน เปนอย่างดี เครื่องใช้ เช่น โต๊ะเก้าอี้ พยายามทำด้วยไม้ไผ่ได้ส่วนสัดแลมั่นคง ใช้สำเร็จประโยชน์ได้เปนอย่างดี..."
ผมไม่มีภาพ "พลับพลาค่ายหลวง" ที่ว่า
แต่ในหนังสือจดหมายเหตุของสักขี ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๑ มีภาพขบวนรถพระที่นั่งที่นครศรีธรรมราชนั้น ผมอยากจะคิดว่าคือที่หน้าค่ายหลวง ในขณะที่อีกภาพในหนังสือนิราศนครศรีธรรมราช ระบุชัดว่าคือพลับพลาที่ประทับ เมื่อ พ.ศ.๒๔๕๘ ในดงประดู่ที่หน้ากำแพงเมืองด้านเหนือนี้เองครับ
ตอนนี้ก็ ๑๐๐ ปี พอดิบพอดี.
๓๐ พค.๖๐