เพื่อแผ่นดินเกิด

เพราะเป็นครูใหญ่ด้านรัฐศาสตร์ของประเทศไทย
แถมเป็นรองอธิการบดีธรรมศาสตร์ร่วมกับ อ.ป๋วย
ตอนเกิดเหตุ ๖ ตุลาฯ
เจอท่านเป็นครั้งคราวตอนที่ท่านออกมาตั้งสถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนาและประธาน กป.อพช.

จนคราวสำคัญที่ท่านลงไปเมืองนครกับ อ.หมอประเวศ แล้วผมชวนไปคีรีวง
ไล่ ๆ กับตอนเกิดเหตุการณ์ พค.๓๕
ที่ทั้ง ๒ ท่าน ร่วมกับ อ.ระพี ได้รับการนับถือเป็น ๓ ราษฎรอาวุโส

วันนี้ ที่ท่าน อ.เสน่ห์ มีอายุ ๙๐ ปี
คณะศิษย์และผู้ที่นับถือ มาจัดงานกันที่สวนโมกข์ฯ
ผมจึงได้โอกาสอยู่ร่วมด้วยตลาดช่วงเช้าที่ท่าน อ.หมอประเวศชี้ว่าท่าน อ.เสน่ห์มีแนวคิดควรคำนึง ๓ ประการสำคัญซึ่งอาจถือเป็น New Development Paradigm ประกอบด้วย มนุษยนิยม-ธรรมชาตินิยม-ปัญญานิยม

ในขณะที่พี่เสกสรรค์ ประเสริฐกุลนั้น วันนี้ขอทำหน้าที่ไหว้ครูลูกเดียวด้วยหลายวลีเด็ด แต่ที่ผมชอบมากก็ตอนที่พี่เสกเล่าว่าออกมาจากป่าจะไปเรียนต่อ ก็ได้ อ.เสน่ห์เป็นคนจัดการเรื่องเอกสารและออกหนังสือรับรองให้อย่างที่สุดโดยพี่เสกเองไม่ต้องเข้าไปทำเองเลย พร้อมกับคำกำชับว่า "เรียนจริง ๆ เสียทีนะ เสกสรรค์"

หลังจากนั้นเป็นเวทีเสวนาที่ผมมีกิจอื่นแทรก
ที่ได้ฟังอย่างสะใจก็ตอนที่ อ.วีระ สมบูรณ์ บอกว่าถูก อ.ทัก ตอนเข้าห้องเรียนว่า "นี่คุณมาเรียนหรือ ?" คุณพิทยา ว่องกุล บอกว่า อ.ย้ำเสมอว่า "คุณมีหน้าที่อะไร ต้องทำให้ดีที่สุดในหน้าที่นั้น" ฯลฯ บันทึกไว้นิดหน่อย หากสนใจก็อ่านกันเองนะครับ

งานนี้ ผมได้โอกาสสานหลายงาน
กับท่าน อ.ประเวศ และ หลวงพี่ดุษฎี 
เรื่องเครือข่ายงานพระศาสนาที่กำลังจะเริ่ม โดยมีโรจน์เป็นหลัก

กับ ดร.สุรินทร์ ที่ให้ปาโก้เอางานธรรมที่ทำสู่สากลมาเล่าให้ฟัง 
พร้อมกับอีกหลายเรื่องด้านประวัติศาสตร์ โบราณคดี ฯ

กับน้ารัตยา จันทเธียร ที่ต่อสายให้ได้คุยกับน้าพาในฐานะเพื่อนกัน

สุดท้าย ก็กับ อ.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อ.ธเนศ อาภรสุวรรณ 
รวมทั้งกับพี่เสกสรรค์ ประเสริฐกุล เรื่องประวัติศาสตร์ โบราณคดี พระพุทธศาสนา ฯลฯ

๑๑ กค.๖๐