การพระศาสนา

     ที่ผมได้รับมอบหน้าที่ตอนจะข้ามปีนั้น มีเพียง ๒ อย่าง 

หนึ่ง ช่วยเกริ่นนำ กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีครั้งนี้ 

สอง นำอธิษฐานทันที หลังจากภาวนาข้ามปี

     โดยผมยกกลอนของท่าน อ.พุทธทาส นี้ เป็นอุปกรณ์การชวนอธิษฐานส่วนการเกริ่นนำนั้น เนื่องากพระท่านใช้เวลามากจนเหลือน้อยนิด

ผมจึงเพียงแจ้งต่อที่ชุมนุมภาวนาว่า ..." ... เราได้รับมอบจากสวนโมกข์ให้มาเริ่มทำพื้นที่บุญนี้มา ๑๐ ปีแล้วโดยได้รับพระบรมราชานุญาตจากพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เป็นกรณีวิเศษและเมื่อเริ่มนั้น ท่าน อ.โพธิ์ กับ อ.หมอประเวศ ก็เพียรข้ามน้ำไปปลูกต้นมะพร้าวนาฬิเกไว้กลางสระ
บอกว่าแม้จะยากในการสถาปนาพระพุทธศาสนาในใจกลางพระนครก็ควรที่จะพยายามถึงวันนี้ ต้นมะพร้าวออกผลดกมากกิจการงานบุญที่พวกเราทำ ก็แผ่ขยายหลายประการรวมทั้งการสวดมนต์ข้ามปีนี้ ที่เราเริ่มทำกันเล่น ๆ เมื่อ ๑๐ ปีก่อนตอนนี้ก็ขยายไปทั่วทั้งประเทศแล้วปีนี้จึงชี้ชวนเน้นการเติมธรรมะลงในชีวิตเพื่อให้แต่ละท่านได้รับผลกันามสมควรจะได้ไม่เสียทีที่เกิดมาพบพระพุทธศาสนา ฯลฯ ... "

     จากนั้น ก่อนการแยกย้ายพวกเราจึงอาราธนาเณรน้อยทั้ง ๕ ขึ้นธรรมาสน์แคร่ แสดงธรรมที่ได้จากการบวชเรียน ๑๘ วันซึ่งพบว่า ขนาดเณรบวชเรียนและเล่น ๘ วัน ยังได้ขนาดนี้แล้วพวกเราทั้งหลาย ถ้าเอาจริง จะได้กันขนาดไหน ? ตัวใครตัวมันนะครับ

" ... ให้ชีวิต โชติช่วง ดุจดวงไฟ
... ส่องทางไป ให้ถึง ซึ่งนิพพาน ... " กันนะครับ

๒ มค.๖๓ ๑๐๕๕ น.
บ้านบวรรัตน์ ท่าวัง เมืองนคร